ทั้งนี้ บริษัทมองว่าการสาขาไปยังในต่างประเทศมีความจำเป็น เปิดเพื่อรองรับการเติบโตต่อเนื่องในช่วง 5 ปีนี้ (56-60) ที่ตั้งเป้าพอร์ตสินเชื่อเติบโต 10-15% ต่อปี จึงจำเป็นที่จะต้องมีสาขาต่างประเทศเข้ามาช่วยเสริม โดยบริษัทจะเข้าไปลงทุนเองไม่จำเป็นต้องมีพันธมิตรร่วมทุน ส่วนในประเทศปีนี้จะเปิดสาขาใหม่ 10 สาขา โดยครึ่งปีแรกเปิดไปแล้ว 5 สาขา
สำหรับผลประกอบการปี 56 บริษัทยังคงเป้าพอร์ตสินเชื่อเติบโต 10% จากปีก่อน โดยครึ่งปีแรกเติบโตแล้ว 5.8% แม้ว่ายอดจำหน่ายรถจักรยานยนต์ในประเทศจะหดตัว 0.50% เหลือ 1 ล้านคันเศษ จากคาดการณ์ยอดขายรถจักรยานยนต์ทั้งปีที่ 2 ล้านคัน ซึ่งเชื่อว่าคงไม่ทำลายสถิติปีก่อนที่มียอดขาย 2.15 ล้านคัน
ขณะที่รายได้รวมปีนี้คาดว่าจะเติบโต 8-9% จากปีก่อนที่มีรายได้ 3,662 ล้านบาท โดยครึ่งแรกทำรายได้แล้ว 1,916 ล้านบาท ซึ่งเป็นไปตามเป้าหมาย แต่ในส่วนกำไรยังไม่สามารถบอกได้ว่าจะต่ำกว่าปีก่อนหรือไม่ เพราะไตรมาส 2/56 กำไรลดลงจากช่วงเดียวกันของปีก่อน และถือเป็นไตรมาสที่กำไรต่ำสุดของปี
อย่างไรก็ตาม มั่นใจว่าไตรมาส 3/56 กำไรจะสูงขึ้น แม้ว่าจะลดลงจากงวดเดียวกันปีก่อน เพราะปีก่อนเป็นช่วงที่รัฐบาลกระตุ้นกำลังซื้อจึงสูง แต่ปีนี้การกำลังซื้อลดลงและไตรมาส 3 เป็นฤดูเพาะปลูก แต่จะไปดีไตรมาส 4/56 ซึ่งไตรมาส 3 แม้จะยังไม่เข้าสู่ปกติ แต่ภาระการตั้งสำรองในระดับสูงเริ่มผ่อนคลายลง
"ที่ผ่านมาผลประกอบการที่ลดลงสอดคล้องตามภาวะเศรษฐกิจชะลอ ส่งออกก็ไม่ดี เม็ดเงินกระตุ้นของรัฐบาลก็น้อย"นายประพล กล่าว
นายประพล กล่าวอีกว่า บริษัทตั้งเป้าจะรักษาระดับหนี้ที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้(NPL) ในปีนี้ไม่ให้เกิน 4% โดยล่าสุดอยู่ที่ราว 3.4-3.6% และยังไม่เห็นสัญญาณหนี้เสียเพิ่ม เนื่องจากบริษัทมีการคัดกรองลูกค้าพอสมควรในช่วงที่ผ่านมา