ส่วนผลประกอบการของบริษัทในปีนี้คาดว่ายอดขายจะเติบโตตามเป้าหมาย 15-20% หลังจากครึ่งปีแรกเติบโตแล้ว 15.4%
นายอัศวิน เตชะเจริญวิกุล กรรมการผู้จัดการใหญ่ BJC กล่าวว่า บริษัทตั้งงบลงทุนรวมในปีนี้ 5-6 พันล้านบาท รวมการทำดีล M&A และงบลงทุนปกติที่กำหนดไว้ปีละ 4,000 ล้านบาท โดยปีนี้สามารถสรุปดีลต่างประเทศไป 2 แห่งที่เวียดนามและลาว ซึ่งดีลที่ลาวเป็นการช่วยเหลือทางธุรกิจ
ขณะที่บริษัทอยู่ระหว่างศึกษาการลงทุนในพม่าเป็นกรีนฟิลด์ ซึ่งไม่ใช่ธุรกิจค้าปลีกหรือค้าส่ง แต่เป็นการลงทุนในภาคอุตสาหกรรม คาดว่าจะได้ข้อสรุปในไตรมาส 4/56 ซึ่งอาจเป็นรูปแบบการร่วมทุนที่บริษัทถือหุ้นใหญ่
นอกจากนี้ บริษัทยังคงเดินหน้าหาซื้อกิจการค้าปลีก-ค้าส่งในต่างประเทศต่อเนื่อง เพื่อไปสู่เป้าหมายใน 5 ข้างหน้าจะมีสัดส่วนยอดขายต่างประเทศ 50% และในประเทศ 50% จากปัจจุบันยอดขายต่างประเทศอยู่ที่เกือบ 20%
"ดีล M&A ค้าปลีก-ค้าส่งยังอยากได้อยู่ ดูต่างประเทศมากกว่าในไทย เพราะในประเทศคู่แข่งเดือดมาก ถ้าเงินเท่ากันไปต่างประเทศดีกว่า"นายอัศวิน กล่าว
ด้าน น.ส.เมทินี อิสรจินดา นักลงทุนสัมพันธ์ BJC กล่าวว่า บริษัทคาดว่าจะสามารถสรุปการเจรจาซื้อธุรกิจค้าปลีกในลาวภายในปลายปีนี้ ส่วนเวียดนามก็ยังมองหาต่อไปคาดว่าจะสรุปในปีหน้า แต่ยังไม่ได้ตั้งงบลงทุน
นายอัศวิน กล่าวอีกว่า ในปีนี้บริษัทคงเป้ายอดขายเติบโต 15-20% จากปีก่อน โดยครึ่งปีแรกเติบโตแล้ว 15.4% มาที่ 20,835 ล้านบาทตามเป้า แนวโน้มครึ่งปีหลังจะเน้นรุกตลาดต่างประเทศมากขึ้น เพราะไตรมาส 2/56 เห็นสัญญาณกำลังซื้อตลาดในประเทศไม่แข็งแกร่ง พิจารณาแล้วการแสวงหาตลาดส่งออกไปต่างประเทศจะดีกว่า อย่างเวียดนามที่เศรษฐกิจดีขึ้นมาก อัตราเงินเฟ้อไม่ถึง 10% แล้ว จึงหวังยอดขายจากตลาดเวียดนามเข้ามาช่วย
"ยุทธศาสตร์จากนี้ จะเอาตลาดต่างประเทศมาช่วยเพราะกำลังซื้อในประเทศไม่เพิ่ม แค่ไม่ลดลงมาก เราก็จะเน้นจัดแคมเปญกิจกรรมส่งเสริมการขาย พยายามทำโดยเฉพาะช่วง 4 เดือนหลังที่มีความไม่แน่นอนทางเศรษฐกิจเยอะ แต่ก็จะยังลงทุนต่อไปเพื่อสร้าง option ให้ยอดขายกำไรโต ซึ่งเป้า 15-20% รวมความผันผวนทั้งหมดแล้ว"นายอัศวิน กล่าว
ทั้งนี้ บริษัทยังหวังไตรมาส 4/56 ยอดขายจะกลับมา เพราะสัญญาณเศรษฐกิจโลกมีความเชื่อมั่นดีขึ้น ตลาดทุนไทย ตลาดทุนต่างประเทศ ญี่ปุ่นดีขึ้น แม้อาจกังวลการปรับลดมาตรการ QE ของสหรัฐอยู่บ้าง ส่วนราคาน้ำมันที่ปรับขึ้นมาในขณะนี้บริษัทก็ได้ทำประกันความเสี่ยงไว้แล้ว โดยต้นทุนที่จะปรับขึ้นในไตรมาส 3/56 คงจะมาจากน้ำมันอย่างเดียว
"ครึ่งหลังรอดูต้นไตรมาส 4 ซึ่งก็หวังว่าความกังวลจะคลี่คลายในก.ย.นี้ และ ต.ค.คนก็เริ่มกลับมาแล้ว"นายอัศวิน ก่ล่าว