สำหรับกลยุทธ์ที่เน้นพัฒนาใน 3 แกนหลัก ได้แก่ 1. ใช้งานได้ง่าย โดยผ่านแอพพลิเคชั่น "AIS Roaming App" และมี "One Zone One Rate" ที่เป็นรูปแบบการคิดค่าบริการข้ามแดนอัตโนมัติแนวใหม่เพื่อลูกค้าระบบรายเดือนสามารถโทรกลับไทยหรือโทรหาหมายเลขประเทศอื่นได้ในราคาทั้งโซนโดยไม่เลือกข่าย และรับสาย โทรหาเบอร์ภายในประเทศที่โรมมิ่งและส่ง SMSได้ในราคาเดียวทั่วโลก
2. ความหลากหลายของแพ็กเกจโรมมิ่ง ได้แก่ แพ็กเกจ Hassle-Free Roaming ที่สามารถโทรและส่ง SMS ได้ในราประหยัดสํงสุด 82%ใน 50ประเทศยอดนิยมหรือเล่นเน็ตได้ในราคาประหยัดสูงสุด 97%ใน 79 ประเทศยอดนิยมโดยไม่ร้องเลือกข่ายแพ็กเกจ Super Value Data Roaming ให้ลูกค้าเล่นเน็ตในต่างประทศได้ในราคาประหยัด เริ่มต้นเพียง 6 บาทกว่าๆร่อเมกะไยท์ เริ่มเปิดบริการล่าสุดที่นิวซีแลนด์ รวมทั้งมีขาย Sim2fly ซิมพรีเพดใช้ได้ทั้งลูกค้าเอไอเอสและไม่ได้เป็นลูกค้าเอไอเอส และแพ็กเกจ Unlimited CHAT Roaming ด้วยอัรราค่าบริการเริ่มต้นเพียง 199 บาท/วัน ประเดิมที่สิงคโปร์ และนิวซีแลนด์
3. ใช้งานมือถือได้สบายใจโดยไม่ต้องกังวล โดยระบบจะมีการแจ้งเตือนเมื่อปริมาณคงเหลือของแพ็กเกจใกล้จะหมด(เหลืออีก 1MB), เช็คยอดค่าใช้จ่ายด้วยตนเองแบบ real time และบล็อกการใช้งานดาต้าเมื่อมใช้งานถึงโคต้าที่ระบุไว้
"สิ่งที่บริการข้ามแดนอัตโนมัติจาก เอไอเอส 3G 2100 เหนือกว่าใครก็คือ การไม่หยุดนิ่งที่จะเพิ่มบริการใหม่ๆ ขึ้นเรื่อยๆ เพื่อเดินหน้าตอบโจทย์ความต้องการและพฤติกรรมการใช้งานของลูกค้าที่เปลี่ยนแปลงไปตลอดเวลา ให้ได้รับทั้งความคุ้มค่า ความสะดวก และความสบายใจตลอดเวลาที่ใช้งานมือถือในต่างประเทศนั่นเอง" นายฐิติพงศ์ กล่าว
ทั้งนี้ เอไอเอส 3G 2100 เปิดให้บริการมา ราว 5 เดือน ตั้งแต่ พ.ค. มีจำนวนลูกค้าเข้าหลัก 9 ล้านเลขหมาย จากเป้าหมายที่ตั้งไว้ 10.5 ล้านราย โดยมาทั้งจากกลุ่มลูกค้าเดิม และกลุ่ม Sim ใหม่ และการขยายโครงข่าย (Network) ที่ติดตั้งได้เร็วกว่ากำหนด โดย ณ เดือนส.ค. ได้ขยายโครงข่ายครบ 77 จังหวัด ซึ่งยังต้องเพิ่มโครงข่ายที่ครอบคลุมพื้นที่มากกว่านี้ ทั้งนี้เพื่อให้มีสัญญาณใช้งานได้ต่อเนื่องและรวดเร็ว และตรงกับคอนเซปต์ของเอไอเอส ที่ระบุเป็น ตัวจริงมาตรฐานโลก