(เพิ่มเติม) ภาวะตลาดหุ้นไทย: แนวโน้มดัชนีวันนี้แกว่งตัวหลังขึ้นมา 4 วันติด แนะเพิ่มความระมัดระวัง

สำหรับประเด็นที่ยังติดตามอย่างใกล้ชิด คือการประชุมคณะกรรมการกำหนดนโยบายการเงินของธนาคารกลางสหรัฐ(FOMC)ในวันที่ 17-18 ก.ย. นี้ เกี่ยวกับมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจสหรัฐ (QE) ว่าจะมีความชัดเจนของการชะลออย่างไรหรือยุติลงเมื่อใด รวมทั้งสถานการณ์ทางการเมืองในประเทศ

ส่วนตลาดหุ้นภูมิภาคช่วงเช้าโดยรวมยังบวกลบคละกันอยู่

วันนี้แนะนำให้ซื้อขายตามปัจจัยของหุ้นตัวนั้นๆ ในส่วนของพอร์ตลงทุนหลักที่จะมีการซื้อหุ้นเพิ่มนั้นควรจะมีการชะลอไปก่อนจนกว่าปัจจัยเรื่อง QE จะมีความชัดเจน

พร้อมให้แนวรับวันนี้ที่ 1,380 จุด และแนวต้าน 1,420 จุด

ประเด็นของการพิจารณาการลงทุน :

• ตลาดหุ้นนิวยอร์ควานนี้(11 ก.ย.)ดัชนีดาวโจนส์ ปิดที่ 15,326.60 จุด เพิ่มขึ้น 135.54 จุด(+0.89%) ดัชนีเอสแอนด์พี 500 ปิดที่ 1,689.13 จุด เพิ่มขึ้น 5.14 จุด(+0.31%) และดัชนีแนสแด็ก ปิดที่ 3,725.01 จุด ลดลง 4.01 จุด(-0.11%)
• ตลาดหุ้นเอเชียเปิดเช้านี้ ดัชนี S&P/ASX 200 ตลาดหุ้นออสเตรเลีย เพิ่มขึ้น 1.60 จุด, +0.03% ดัชนี NIKKEI 225 ตลาดหุ้นญี่ปุ่น ลดลง 27.17 จุด, -0.19% ดัชนี TAIEX ตลาดหุ้นไต้หวัน ลดลง 28.61 จุด, -0.35% ดัชนี FTSE STI ตลาดหุ้นสิงคโปร์ เพิ่มขึ้น 15.18 จุด, +0.49%, ดัชนี FBMKLCI ตลาดหุ้นมาเลเซีย เพิ่มขึ้น 9.28 จุด, +0.52% ดัชนี HSI ตลาดหุ้นฮ่องกง เพิ่มขึ้น 15.71 จุด, +0.07% ดัชนี PSE Composite ตลาดหุ้นฟิลิปปินส์ เพิ่มขึ้น 1.94 จุด, +0.03% ดัชนี SSE Composite ตลาดหุ้นจีน ลดลง 5.10 จุด, -0.23%
• ตลาดหุ้นไทยปิดวานนี้(11 ก.ย.)ที่ 1,411.18 จุด เพิ่มขึ้น 18.01 จุด (+1.29%)
• นักลงทุนต่างชาติซื้อสุทธิ 3,339.34 ล้านบาท เมื่อ 11 ก.ย.56
• ราคาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือน ต.ค.ในตลาดไนเม็กซ์ปิดทำการวานนี้(11 ก.ย.)ที่ 107.56 ดอลลาร์/บาร์เรล เพิ่มขึ้น 0.17 ดอลลาร์ฯ
• ค่าการกลั่นอ้างอิงตลาดสิงคโปร์ปิดวานนี้(11 ก.ย.)ที่ 3.85 เหรียญฯ/บาร์เรล
• เงินบาทเปิด 31.89/90 แข็งค่าต่อเนื่องตามภูมิภาค
• กสทช.สรุปขายซองประมูลทีวีดิจิทัลวันmuj 2 เอกชนซื้อซอง 23 ราย รวม 34 ซองวันที่ 2 "คึกคัก" สื่อสิ่งพิมพ์ คอนเทนท์โปรวายเดอร์ แห่ซื้อซอง เครือเนชั่น-โมโนทีวีพูล ซื้อ 3 ซอง ขณะที่อินทัช เพิ่มช่องเด็ก "ข่าว-วาไรตี้"สนใจสูงสุด "ช่อง 3-อสมท" หวังชนะประมูล 2 ช่อง
• แหล่งข่าวจากสำนักงานเศรษฐกิจการคลัง(สศค.)เปิดเผยว่า จะสรุปการปรับลดภาษีนำเข้าสินค้าฟุ่มเฟือย เช่น น้ำหอม เครื่องสำอาง เสื้อผ้าแบรนด์เนม รองเท้าและกระเป๋า จากปัจจุบันจัดเก็บภาษีอยู่ 30% ให้เหลือแค่ 5% ซึ่งอัตราดังกล่าวจะเท่ากับการจัดเก็บภาษีนาฬิกา ให้นายกิตติรัตน์ณ ระนอง รองนายกรัฐมนตรีและ รมว.คลัง พิจารณาในปลายเดือนนี้
• ก.ล.ต.เผยบริษัทจดทะเบียนจีนหมดสิทธิเข้าตลาดหุ้นไทยด้วยเกณฑ์โฮลดิ้งคัมพานีเพราะยากแก่การดูแล หลังก.ล.ต.จีนไม่รับรอง และช่วยตรวจสอบ แต่ยังลิสติ้งในตลาดหุ้นไทยโดยตรงได้ แย้มอยู่ระหว่างแก้ประกาศบังคับอันเดอร์ไรเตอร์ทำสรุปข้อมูลสำคัญการขายหุ้นแนบใบจองซื้อแจกนักลงทุน พบที่ผ่านมานักลงทุนไม่อ่านหนังสือชี้ชวน นามยงลั่นเดินหน้าเข้าเทรดไตรมาส 4 ปีนี้ ด้านโอเชี่ยน คอมเมิรช ยื่นไฟลิ่งขายไอพีโอ 100 ล้านหุ้น ยันเข้าเทรดปลายปี
• แบงก์ชาติยอมรับต้องปรับลดประมาณการเศรษฐกิจในการประชุม กนง.วันที่ 16 ต.ค.ส่วนอัตราเงินเฟ้อรอดูอีกสักระยะ เหตุปัจจัยบวกและลบเพียบทั้งดีมานด์แผ่ว ขณะที่ต้นทุนและคนส่วนใหญ่คาดการณ์สินค้าแพงอยู่ มั่นใจเศรษฐกิจไทยฟื้นตัวชัดเจนในไตรมาส 4 จับตาพิเศษสถานการณ์ในซีเรียห่วงความขัดแย้งประเทศมหาอำนาจจะส่งผลกระทบทั่วโลก
• ผู้อำนวยการสำนักงานบริหารหนี้สาธารณะ (สบน.) เปิดเผยว่า ได้สั่งยกเลิกการประมูลพันธบัตรรัฐบาลอัตราดอกเบี้ยแปรผันตามการเปลี่ยนแปลงของเงินเฟ้อ(Inflation-Linked Bond : ILB) อายุ 15 ปี วงเงิน 1 หมื่นล้านบาทออกไป เนื่องจากอัตราดอกเบี้ยที่ผู้ประมูลเสนอเข้ามาสูงเกินไปกว่าที่คาดมาก หลังจากอัตราผลตอบแทนพันธบัตรในตลาดปรับตัวสูงขึ้นมามากในช่วง 2-3 สัปดาห์ที่ผ่านมา

*หุ้นเด่นวันนี้

• INTUCH(ฟินันเซีย ไซรัส)เป้า 107 บาท ชอบมากสุดในบรรดาผู้ประกอบการ 3G เพราะผลกำไรของผู้ประกอบการใน 2H13 จะถูกกดดันด้วยค่าใช้จ่ายจากการเร่งลงทุน แต่ INTUCH มีกำไรของ THCOM ที่ 2H13 จะดีกว่าครึ่งปีแรกเพราะจะรับรู้รายได้จาก TOT ส่วนเพิ่มอย่างเต็มที่ และเริ่มมีรายได้จากลูกค้าจีน รวมถึงรายได้ของไทยคม 6 ที่จะขึ้นสู่วงโคจรใน 4Q13 และ INTUCH ยังมีศักยภาพในการดำเนินธุรกิจทีวีดิจิตอล ในแง่ราคาหุ้น INTUCH ยัง laggard ที่สุด
• THAI(เคเคเทรด)"ซื้อเก็งกำไร"เป้า 26 บาท คาดว่าผลประกอบการผ่านจุดต่ำสุดของปีนี้ไปแล้ว และจะมีกำไรจากการธุรกิจปกติที่ดีขึ้นต่อเนื่องตามวงจรธุรกิจที่กำลังเข้าสู่ High Season และจะกลับมามีกำไรได้ใน 4Q56 ส่วนเหตุเครื่องบินไถลออกนอกรันเวย์ไม่กระทบต่อกำไรอย่างมีนัย ราคาหุ้นที่ลดลงกว่า 34% ทำให้มี Upside Gain สูงและซื้อขายต่ำกว่า BV
• MFEC (เคเคเทรด)"ซื้อ"เป้า 11.70 บาท มีงานในมือสูงถึง 1.9 พันล้านบาท และล่าสุดอยู่ระหว่างรอผลประมูลงานมูลค่า 4-5 พันล้านบาท เป็นงานภาครัฐและเอกชนอย่างละ 50% มีโอกาสชนะประมูล 70-80% ประเมินกำไรสุทธิปี 56 ไว้ที่ 281 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 54% YoY และคาดเงินปันผลปีนี้ 0.45 บาท/หุ้นหรือคิดเป็น Dividend Yield สูงถึง 6%
• KTB (เมย์แบงก์ กิมเอ็ง)"ซื้อเก็งกำไร"เป้า 30 บาท คาดเห็นแรงเก็งกำไรอย่างต่อเนื่องในช่วง 2 สัปดาห์หน้า จากความคาดหวังเชิงบวกร่าง พ.ร.บ.เงินกู้ 2.2 ล้านล้านบาทเข้าสู่การพิจารณาของสภา KTB จะได้ประโยชน์โดยตรงจากโครงการลงทุนขนาดใหญ่ของภาครัฐ และคาด 3Q-4Q ยังมีทิศทางการขยายตัวที่ดี โดย 3Q56 จะบันทึกเงินปันผลกองทุนวายุภักษ์ราว 700 ล้านบาท และ 4Q56 คาดบันทึกกำไรพิเศษราว 3,000-3,500 ล้านบาท จาก Capital Gain ของกองทุนวายุภักษ์ที่ครบอายุ ดังนั้น ยังคงประมาณการกำไรปี 2556 ที่ 30,443 ล้านบาท +29.3% yoy
• TTA(เมย์แบงก์ กิมเอ็ง)"ซื้อเก็งกำไร"เป้า 23.60 บาท ยังมี Momentum เชิงบวก จากการไต่ระดับขึ้นของดัชนี BDI เป็นวันที่ 8 ติดต่อกันอีก 87 จุด หรือ +5.6% dod เป็น 1,628 จุด และปรับตัวขึ้น 8 วันทำการรวมถึง +43.8% ผลประกอบการได้ผ่านพ้นจุดต่ำสุดแล้ว และจากการ Conference Call กับผู้บริหารวานนี้ คาดว่าผลประกอบการ 4Q55/56(ก.ค.-ก.ย.) จะพลิกกลับเป็นกำไรจากการดำเนินงานปกติได้เป็นครั้งแรกในรอบ 7 ไตรมาส คาดจะเติบโตก้าวกระโดดในปีหน้า(2556/2557)กำไรปกติราว 913 ล้านบาท +4,588.2% yoy และโตต่อเนื่อง +74% yoy เป็น 3,696 ล้านบาท ในปี 2557/2558