อย่างไรก็ตาม บริษัทได้ปรับลดเป้ารายได้ในปีนี้เป็นเติบโต 10% โดยเดิมตั้งไว้ 20% จากปีก่อนที่มีรายได้ 2.24 พันล้านบาท หลังเกิดปัญหาการจัดการภายในของบริษัท โดยเฉพาะการนำระบบ KPI เข้ามาวัดประสิทธิภาพการทำงานของพนักงาน ทำให้มีการแข่งกันการขายของพนักงานในองค์กรอย่างรุนแรง ซึ่งไม่สอดคล้องกับทิศทางการดำเนินงานของบริษัท ส่งผลกระทบต่อยอดขายทำให้ปรับตัวลดลง
“ที่เราต้องปรับยอดขายในปีนี้ลงเหลือ 10% เพราะการจัดการภายในของเราเกิดปัญหา โดยเฉพาะพนักงานที่มีการแข่งขันกันอย่างรุนแรง ทำให้มีการดึงตัวไป 100 กว่าคน และพนักงานที่อยู่ในบริษัทก็ยังมีการแข่งขันกันอย่ารุนแรงอยู่ สวนทางกับทิศทางการดำเนินงานของบริษัท ส่งผลกระทบต่อยอดขายของบริษัทอย่างมาก แต่เราก็ทยอยแก้ไขปัญหาอยู่ตลอด และมีการเทรนพนักงานใหม่ให้มีประสิทธิภาพและนึกถึงองค์กรมากขึ้น"นายทรงพล กล่าว
นอกจากนี้ บริษัทมีแผนการแยกธุรกิจทีวีโฮมช้อปปิ้งออกมา เพื่อเป็นการแก้ปัญหาระบบการจัดการภายในของบริษัททางหนึ่ง โดยได้เจรจาร่วมทุนกับพันธมิตร อย่าง บมจ.ซีทีเอช (CTH) เพื่อร่วมกันดำเนินธุรกิจทีวีโฮมช้อปปิ้งผ่านโครงข่ายเคเบิ้ลทีวีของ CTH ที่ออกอากาศทั่วประเทศไทยตลอด 24 ชั่วโมง และเป็นการสร้างโอกาสในการผลักดันรายได้ในอนาคต คาดว่าจะมีความชัดเจนในไตรมาส 1/57
นายทรงพล กล่าวต่อว่า บริษัทเตรียมเงินลงทุน 50 ล้านบาทสำหรับการเพิ่มสตูดิโอแห่งใหม่ 2 แห่ง และใช้ปรับปรุงระบบการถ่ายทำในสตูดิโอเดิมที่มีอยู่ 2 แห่ง เพื่อรองรับระบบการออกอากาศแบบ HD ซึ่งแผนงานทั้งหมดจะแล้วเสร็จภายในไตรมาส 1/57 และในปี 57 บริษัทวางแผนขยายสาขาร้านโชว์เคสเพิ่มอีก 10-15 สาขา ใช้เงินลงทุนเฉลี่ย 1-1.5 ล้านบาท/สาขา
ส่วนการวางจำหน่ายสินค้าของ บริษัท JML Direct (Thailand) ซึ่งเป็นบริษัทร่วมทุนระหว่าง TVD และบริษัท JML ผู้ดำเนินธุรกิจค้าปลีกที่มีความเชี่ยวชาญด้าน Screen to Screen จากอังกฤษนั้น นายทรงพล กล่าวว่า ได้มีการเลื่อนการวางจำหน่ายไปเป็นไตรมาส 1/57 จากเดิมกำหนดไว้ในครึ่งหลังของปี 56 เนื่องจากมีปัญหาการขนส่งสินค้าล่าช้า ซึ่งปัจจุบันอยู่ระหว่างการขนส่งทางเรือ และจะนำมาวางจำหน่ายในไฮเปอร์มาร์เก็ตและซุปเปอร์มาร์เก็ต 4-5 แบรนด์