ก.ล.ต. ได้รับแจ้งจากตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยและตรวจสอบเพิ่มเติมพบว่า นายเสวก ซื้อหุ้น PLE โดยปรากฏข้อเท็จจริงในการใช้บัญชีซื้อขายหุ้นของบุคคลอื่นจำนวน 5,000,000 หุ้น ระหว่างวันที่ 7-21 เมษายน 2553 ในประการที่น่าจะเป็นการเอาเปรียบต่อบุคคลภายนอก
ในขณะที่นายเสวกซึ่งเป็นประธานกรรมการ ประธานกรรมการบริหาร และประธานติดตามทวงหนี้จากลูกหนี้ต่างประเทศของ PLE ล่วงรู้ข้อเท็จจริงด้านบวกอันเป็นสาระสำคัญต่อการเปลี่ยนแปลงราคาของหุ้น PLE ที่ยังมิได้เปิดเผยต่อประชาชนเกี่ยวกับผลการดำเนินงานไตรมาส 1 ปี 2553 ของ PLE ที่แสดงกำไรสุทธิ 184.10 ล้านบาท ซึ่งเพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญเมื่อเทียบกับงวดเดียวกันของปีก่อนที่มีผลขาดทุนสุทธิ 223.23 ล้านบาท เพิ่มขึ้นร้อยละ 182.47 และเมื่อเทียบกับไตรมาส 4 ปี 2552 ที่ขาดทุนสุทธิ 403.74 ล้านบาท เพิ่มขึ้นร้อยละ 145.60 โดยมีสาเหตุจากการที่ PLE ได้รับชำระหนี้คืนจากลูกหนี้ต่างประเทศที่เดิมตั้งหนี้สูญไว้ และการขายที่ดินที่ไม่ใช้ในการดำเนินงาน
ทั้งนี้ โดยมีนางอุษาวดีและนายพีระยุทธเป็นผู้ช่วยเหลือในการสั่งซื้อขายหุ้น และจัดการเรื่องเงินค่าซื้อขายหุ้น
การกระทำของนายเสวกเข้าข่ายเป็นความผิดตามมาตรา 241 แห่งพระราชบัญญัติหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ พ.ศ. 2535 ส่วนการกระทำของนางอุษาวดี และนายพีระยุทธ เข้าข่ายเป็นการช่วยเหลือสนับสนุนการกระทำความผิดตามมาตรา 241 แห่งพระราชบัญญัติหลักทรัพย์ฯ ประกอบมาตรา 86 แห่งประมวลกฎหมายอาญา
ทั้งนี้ นายเสวก นางอุษาวดี และนายพีระยุทธ ยินยอมเข้ารับการเปรียบเทียบ ซึ่งคณะกรรมการเปรียบเทียบได้เปรียบเทียบปรับนายเสวกในฐานะตัวการ เป็นเงิน 985,849.53 บาท นางอุษาวดีและนายพีระยุทธ ในฐานะเป็นผู้ช่วยเหลือสนับสนุน เป็นเงินรายละ 333,333.33 บาท