นายประสงค์ สุวิวัฒน์ธนชัย ประธานกรรมการบริหาร UNIQ เปิดเผยว่า บริษัทคาดว่าภายในสิ้นปี 56 จะมีมูลค่า Backlog แตะระดับ 8 หมื่นล้านบาท และจะทยอยรับรู้ไปถึงปี 58 โดยในช่วงที่เหลือของปีนี้บริษัทจะเข้าประมูลงานโครงการภาครัฐมูลค่ารวมกว่า 2.5 แสนล้านบาท ได้แก่ โครงการรถไฟรางคู่ มูลค่าราว 1 แสนล้านบาท โครงการมอเตอร์เวย์บางปะอิน-นครราชสีมา มูลค่ากว่า 8 หมื่นล้านบาท รถไฟฟ้าสายสีชมพู 5 หมื่นล้านบาท และรถไฟสายสีเขียว 2 หมื่นล้านบาท
ทั้งนี้ บริษัทคาดว่าจะได้รับงานราว 25-30% ของมูลค่างานที่เข้าประมูล ซึ่งจะช่วยผลักดันให้มูลค่า Backlog สูงขึ่นตามเป้าหมาย จากปัจจุบันบริษัทมี Backlog อยู่กว่า 4 หมื่นล้านบาท ทยอยรับรู้ในปีนี้ประมาณ 8 พันล้านบาท และส่วนที่เหลือจะรับรู้ในปี 57
“งานภาครัฐที่เราจะเข้าประมูลปีนี้ เราคาดหวังจะได้งานประมาณ 25-30% ซึ่งจะช่วยผลักดัน backlog ของเราให้ double ขึ้น และส่งผลต่อรายได้ในปี 57-58 ซึ่งจะมีแนวโน้มเติบโตขึ้นมากกว่าปัจจุบัน"นายประสงค์ กล่าว
นายประวสงค์ กล่าวอีกว่า บริษัทคาดว่ารายได้ในปีนี้จะอยู่ที่ 8 พันล้านบาท ตามการรับรู้รายได้จาก Backlog และในปี 57 คาดว่ารายได้จะเพิ่มขึ้นเป็น 1.5-2 หมื่นล้านบาท และในปี 58 จะมีรายได้แตะ 3 หมื่นล้านบาท จากการทยอยรับรู้รายได้ Backlog
“การที่ปีหน้ารายได้จะแตะ 1.5-2 หมื่นล้านบาท เราต้องได้งานมอเตอร์เวย์บางปะอินฯประมาณ 25% จึงจะสามารถผลักดันรายได้ให้เป็นไปตามเป้าหมาย และในปีต่อไปก็จะเพิ่มเป็น 3 หมื่นล้านบาท จากการทยอยรับรู้รายได้จากโครงการภาครัฐที่เราประมูลได้ ซึ่งงานภาครัฐยังเข้ามาอยู่เรื่อยๆโดยเฉพาะภาครัฐสนับการพัฒนาโครงการเกี่ยวกับการคมนาคมขนส่ง บริษัทมีความชำนาญและเน้นการรับงานจากภาครัฐมากกว่าเพราะมีความเสี่ยงน้อยกว่า เนื่องจากภาครัฐมีการเงินมั่นคงเราทำงานให้เขาก็ได้รับเงินอย่างแน่นอน"นายประสงค์ กล่าว
ส่วนอัตรากำไรสุทธิของบริษัทฯปีนี้ตั้งเป้าไว้ที่ 6% แต่มีแนวโน้มที่จะสูงกว่าเป้ามาอยู่ที่ประมาณ 8% หรือใกล้เคียงปีก่อนที่ 8.19% ซึ่งเป็นไปตามการทยอยรับรู้รายได้ที่เพิ่มขึ้นในปีนี้ และนโยบายลดความเสี่ยงราคาวัสดุก่อสร้างด้วยการล็อกราคากับซับพลายเออร์ รวมทั้งการนำเทคโนโลยีใหม่ๆ ในการก่อสร้างเข้ามาช่วย ทำให้มีต้นทุนที่ถูกลงส่งผลให้กำไรของบริษัทฯปรับตัวสูงขึ้น
สำหรับแผนออกและเสนอขายหุ้นเพิ่มทุนจำนวน 300 ล้านหุ้น ซึ่งจะขายให้ผู้ถือหุ้นเดิม 50 ล้านหุ้น และกลุ่มผู้ถือหุ้นใหม่ 250 ล้านหุ้น โดยคาดว่าจะสำเร็จภายในปีนี้ ขณะนี้บริษัทรอดูบรรยากาศตลาดหุ้นไทยที่เหมาะสมก่อน บริษัทมีแผนจะใช้เงินดังกล่าวในการลงทุนก่อสร้างโครงการต่างๆที่ประมูลได้
อนึ่ง วันนี้ UNIQ ได้รับการอนุมัติวงเงินกู้ จำนวน 9 พันล้านบาท จากบริษัท กรุงไทยธุรกิจลีสซิ่ง จำกัด เพื่อเป็นเงินสนับสนุนการจัดหาเครื่องจักรและวัสดุเหล็กทุกประเภทสำหรับโครงการรถไฟชานเมืองสายสีแดง (บางซื่อ-รังสิต) สัญญาที่ 1 ซึ่งเป็นโครงการขนาดใหญ่มูลค่าเกือบ 3 หมื่นล้านบาท โดยมีธนาคารกรุงไทยเป็นโปรเจ็คต์ไฟแนนซ์ โดยสัญญามีอายุ 4 ปี เริ่มก่อสร้างในเดือน มี.ค.57 และจะแล้วเสร็จในปี 60