การซื้อขายหุ้นวันนี้ ดัชนีหุ้นไทยเคลื่อนไหวในแดนบวกตลอดทั้งวัน โดยแตะจุดสูงสุดของวันที่ระดับ 1,445.18 จุด ส่วนดัชนีจุดต่ำสุดของวันอยู่ที่ 1,428.87 จุด
ส่วนหลักทรัพย์เปลี่ยนแปลงวันนี้ เพิ่มขึ้น 645 หลักทรัพย์ ลดลง 141 หลักทรัพย์ และไม่เปลี่ยนแปลง 103 หลักทรัพย์
นายกวี ชูกิจเกษม ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ บล.กสิกรไทย กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยวันนี้ปรับตวขึ้นเร็วและแรงผิดจากที่คาดไว้ แต่เป็นไปในทิศทางเดียวกับตลาดหุ้นเอเชียที่วันนี้มีการปรับตัวขึ้นเป็นส่วนใหญ่ โดยเฉพาะตลาดกลุ่ม TIP เป็นผลจากนักลงทุนคลายความกังวลการลดขนาดมาตรการ QE หลังจากมองว่าคงลดลงไม่มาก ส่งผลให้มีเม็ดเงินไหลกลับเข้ามาในตลาดหุ้นมากขึ้น โดยเฉพาะตลาดฯที่เคยถูกถอนเงินลงทุนออกไปมากก่อนหน้านี้ อย่างตลาดอินโดนีเซีย วันนี้ก็มีเม็ดเงินไหลเข้าไปเป็นจำนวนมาก
อย่างไรก็ดี ต้องจับตาการประชุมคณะกรรมการกำหนดนโยบายการเงินของธนาคารกลางสหรัฐ(FOMC) ในวันที่ 17-18 ก.ย.เพราะตลาดฯยังเป็นกังวลต่อการลดขนาด QE ส่วนการพิจารณาร่างพ.ร.บ.เงินกู้ 2 ล้านล้านบาทของสภาฯในสัปดาห์นี้ ก็เป็นปัจจัยหนุนตลาดฯอีกทางหนึ่ง
พร้อมกับมองว่า เมื่อตลาดฯหมดความกังวลเรื่องการลดขนาด QE และการเลือกตั้งในเยอรมันวันที่ 22 ก.ย.นี้หมดไปแล้ว ตลาดฯก็จะหมดเรื่องเก็งกำไร ดังนั้น ตลาดฯอาจจะมีการปรับฐานระยะสั้นได้ จึงแนะนำให้ลดพอร์ตการลงทุนเมื่อดัชนีฯขึ้นไปแถว 1,460-1,500 จุด แม้ว่าทิศทางของตลาดฯยังเป็นขาขึ้นอยู่ก็ตาม
แนวโน้มการลงทุนในวันพรุ่งนี้(17 ก.ย.)นายกวี กล่าวว่า ตลาดฯยังมีโอกาสที่จะปรับตัวขึ้นได้ต่อ แต่ก็ต้องระวังแรงขายทำกำไรในระหว่างทาง โดยเฉพาะแถวแนวต้าน 1,450-1,462 จุด อาจจะมีการปรับฐานได้เมื่อขึ้นไปทดสอบในระดับดังกล่าว ส่วนแนวรับให้ไว้ที่ 1,390 จุด
ส่วนหลักทรัพย์ที่มีมูลค่าการซื้อขายสูงสุด 5 หลักทรัพย์ ได้แก่
TRUE มูลค่าการซื้อขาย 4,538.86 ล้านบาท ปิดที่ 8.30 บาท เพิ่มขึ้น 1.05 บาท
KBANK มูลค่าการซื้อขาย 3,070.37 ล้านบาท ปิดที่ 190.00 บาท เพิ่มขึ้น 10.00 บาท
SCB มูลค่าการซื้อขาย 2,782.00 ล้านบาท ปิดที่ 167.00 บาท เพิ่มขึ้น 10.00 บาท
CK มูลค่าการซื้อขาย 2,375.54 ล้านบาท ปิดที่ 23.30 บาท เพิ่มขึ้น 0.90 บาท
KTB มูลค่าการซื้อขาย 2,147.30 ล้านบาท ปิดที่ 21.20 บาท เพิ่มขึ้น 1.30 บาท