ทั้งนี้ บริษัทยังมีเป้าหมายที่จะเพิ่มสัดส่วนรายได้จากต่างประเทศเป็น 10-15% ภายในปี 59 จากปีนี้อยู่ที่ประมาณ 5% โดยบริษัทได้เข้าไปบุกตลาดต่างประเทศเพิ่มเติมทั้งในพม่า ลาว กัมพูชา และมาเลเซีย ซึ่งได้รับการตอบรับที่ดี ยอดขายเติบโตถึง 70-80% และในช่วงต้นปี 57 บริษัทจะเข้าไปบุกตลาดเครื่องดื่มในประเทศสิงคโปร์เพิ่มเติม เพื่อสร้างการรับรู้ในแบรนด์ของโออิชิ และขยายตลาดชาเขียวพร้อมดื่มที่ยังมีมูลค่าตลาดรวมไม่มากนัก
ด้านนายฐาปน สิริวัฒนภักดี กรรมการผู้อำนวยการใหญ่ บมจ.ไทยเบฟเวอเรจ(THAIBEV) และ ประธานกรรมการบริษัท โออิชิเทรดดิ้ง จำกัด ในเครือOISHI เปิดเผยว่า บริษัทได้ลงนามในสัญญาจัดซื้อเครื่องจักรและเทคโนโลยีการผลิตและบรรจุเย็นแบบปลอดเชื้อแห่งที่ 3 โดยโรงงานผลิตและบรรจุของเครื่องดื่มโออิชิในนิคมอุตสาหกรรมนวนคร จ.ปทุมธานี มูลค่ารวม 1.3 พันล้านบาท กับบริษัท ชิบูยา โคเมียว จำกัด เพื่อเพิ่มกำลังการผลิตอีก 15 ล้านขวดต่อเดือน จากปัจจุบันมีกำลังการผลิตรวมอยู่ที่ 60 ล้านขวดต่อเดือน
ทั้งนี้ เพื่อรองรับความต้องการสินค้าทั้งภายในประเทศและส่งออกไปยังต่างประเทศที่เพิ่มขึ้นต่อเนื่อง และเพื่อเพิ่มโอกาสในการขายเครื่องดื่มชาเขียวพร้อมดื่มของโออิชิหลังการเข้าสู่ประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน (AEC) ซึ่งสายการผลิตที่ลงนามในวันนี้ได้รับการอนุมัติจากคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน(BOI) เป็นที่เรียบร้อยแล้ว คาดว่าจะสามารถเดินเครื่องการผลิตในเชิงพาณิชย์ได้ภายในเดือนธ.ค.57
ขณะที่นายมารุต กล่าวอีกว่า จากการขยายกำลังการผลิตโรงงานแห่งที่ 3 หากผลิตเต็มกำลังการผลิตที่ 15 ล้านขวดในปี 58 จะสามารถเพิ่มรายได้ให้กับบริษัทราว 1.8-2 พันล้านบาทต่อปี และด้วยการผลิตโดยเทคโนโลยีแบบใหม่จะสามารถลดต้นทุนของบริษัทลงได้ประมาณ 15-20%