(เพิ่มเติม) GOLD รับปีนี้ยังขาดทุน หวังพลิกเป็นกำไรในปี 58 หลังแก้ไขปัญหาโครงสร้าง

ข่าวหุ้น-การเงิน Tuesday September 17, 2013 14:04 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นายธนพล ศิริธนชัย ประธานอำนวยการ บมจ.แผ่นดินทอง พร๊อพเพอร์ตี้ ดีเวลอปเม้นท์ (GOLD) เปิดเผยว่า ผลการดำเนินงานของบริษัทในปีนี้ยังขาดทุนอยู่ โดยในครึ่งปีแรกปีนี้บริษัทขาดทุน 153.06 ล้านบาท แต่เชื่อว่าจะสามารถพลิกมีกำไรได้ในปี 58 โดยบริษัทจะมีการปรับโครงสร้างองค์กรใหม่และแก้ปัญหาที่เกิดขึ้นในองค์กรที่เกิดขึ้นภายในปีนี้
"เรามีแผนที่จะล้างขาดทุนสะสม หมดภายใน 3 ปี (56-58)ระบุมีหลายวิธีในการดำเนินการที่สามารถทำได้ แต่ตอนนี้ยังตอบไม่ได้ว่าเราจะใช้แนวทางไหน"นายธนพล กล่าว

อนึ่ง ผลประกอบการปี 55 บริษัทมีรายได้ 1.62 พันล้านบาท มีผลการดำเนินงานขาดทุน 613 ล้านบาท โดยครึ่งปีแรกปีนี้มีรายได้ราว 759.99 ล้านบาท และมีผลขาดทุนราว 153.06 ล้านบาท และปัจจุบันมีขาดทุนสะสม 1.68 พันล้านบาท

ทั้งนี้ ในปี 57 บริษัทมีแผนขายทรัพย์สินที่ไม่เกี่ยวข้องกับธุรกิจหลักของบริษัท ได้แก่ ที่ดินเปล่า มูลค่าราว 1 พันล้านบาท โดยทรัพย์สินที่เหลืออยู่ ได้แก่ สำนักงานที่ซอย.ไผ่สิงโต มีจำนวน 1 แสนตร.ม. และโครงการอาคารสำนักงาน สาทร สแควร์ มูลค่า 5 พันล้านบาท

นายธนพล ศิริธนชัย ประธานอำนวยการ GOLD เปิดเผยว่า บริษัทตั้งเป้ารายได้ปีนี้ 1.5-1.6 พันล้านบาท โดยช่วง 8 เดือนมีรายได้แล้วประมาณ 700-800 ล้านบาท ปัจจุบันบริษัทยังไม่มีรายได้ใหม่ๆเข้ามา รายได้หลักเกือบทั้ง 100% มาจากการให้เช่าอาคารสำนักงาน แต่ในช่วงปลายปี 56 คาดว่าจะมีเปิดโครงการแนวราบเพิ่มเติม ซึ่งบริษัทคาดว่าภายใน 3 ปีสัดส่วนรายได้จากการขายโครงการบ้านแนวราบจะอยู่ที่ 50-60% และรายได้จากอาคารสำนักงาน โรงแรม อยู่ที่ประมาณ 40%

นอกจากนี้ บริษัทมีแผนเปิดตัวโครงการอาคารสำนักงานและโรงแรมระดับ 3-5 ดาว บริเวณซอยไผ่สิงโต มูลค่าโครงการราว 7พันล้านบาท คาดว่าจะเปิดตัวในช่วงปลายปีนี้หรือต้นปีหน้า ปัจจุบันอยู่ระหว่างการออกแบบ และคาดว่าจะก่อสร้างเสร็จภายใน 3 ปี ซึ่งบริษัทประเมินค่าเช่าพื้นที่ของโครงการดังกล่าวไว้ที่ประมาณ 600-700 บาทต่อตร.ม.

นายธนพล กล่าวต่อว่า สำหรับแผนการดำเนินงานในช่วงปีหน้า หลังรีแบรนด์ดิ้ง และเพิ่มผู้เช่าระดับแม่เหล็กครั้งนี้แล้ว คาดว่าจะสามารถเพิ่มสัดส่วนผู้เช่าให้เต็ม ซึ่งปัจจุบันนี้มีอัตราการเช่าอยู่ที่ 75% และอัตราค่าเช่าจะเติบโตตามเศรษฐกิจ ขณะที่ปัจจุบันสามารถทำราคาได้ที่ 850 บาทต่อตร.ม. และคาดว่าราคาค่าเช่าพื้นที่ในปีหน้าจะปรับเพิ่มเป็น 900 บาทต่อตร.ม.

บริษัทมองว่าตลาดอาคารสำนักงานในขณะนี้ยังมีผู้เล่นจำนวนน้อยราย และพบว่าดีมานด์ยังเติบโตค่อนข้างดี ทั้งจากความต้องการที่เพิ่มขึ้นเพื่อรองรับการเปิดประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน (AEC) รวมถึงการขยายธุรกิจของผู้เช่า

"ในช่วง2-3ปีที่ผ่านมา มีจำนวนการสร้างตึกออฟฟิศน้อยมาก ทำให้ปัจจุบันมีปริมาณอาคารออฟฟิศที่จะตอบสนองตลาดน้อย สวนทางกลับดีมานด์ที่มีมากขึ้นในปัจจุบันที่มีอยู่มาก"นายธนพล กล่าว

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ