นางสาวชุติมา ตั้งมติธรรม ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการใหญ่ MK กล่าวว่า บริษัทคาดว่ายอดขายในปีนี้อาจจะต่ำกว่าเป้าเดิมที่ตั้งไว้ 3 พันล้านบาท ราว 10% เนื่องจากภาวะเศรษฐกิจชะลอตัวส่งผลกระทบให้กำลังซื้อของลูกค้าลดลง ประกอบกับ ปัจจุบันอัตราการปฎิเสธสินเชื่อของลูกค้าเพิ่มากขึ้นเป็น 11% จากในข่วง 2-3 ปีก่อนอยู่ที่ 7-8%
ทั้งนี้ บริษัทมียอดขาย 8 เดือนอยู่ที่ 1.3 พันล้านบาท
"ในเรื่องยอดขายภาวะเศรษฐกิจคงกระทบ แต่บริษัทพยายามทำให้มีจำนวนคนเข้าชมโครงการเพิ่มมากขึ้นเพื่อเพิ่มโอกาสในการขายโครงการของบริษัท ซึ่งปัจจุบันจำนวนคนเข้าชมโครงการก็ไม่ได้ลดลงตามกำลังซื้อ เรื่องอัตราการปฏิเสธสินเชื่อในปัจจุบันยังถือว่ายังไม่อยู่ในระดับที่สูงมาก แต่โครงการที่ลูกค้าซื้อแล้วกู้ไม่ผ่านทำให้บริษัทต้องนำกลับมาขายใหม่อีก แต่ที่เราเป็นห่วงมากตอนนี้เป็นเรื่องผู้รับเหมา เพราะแรงงานหายากและมีการแย่งตัวกันขึ้น ส่วนราคาขายโครงการของบริษัทขอดูราคาต้นทุนต่างๆๆก่อน ตั้งแต่ต้นปีมาก็ยังไม่ได้ปรับขึ้นและคิดว่าในปีนี้ก็ยังไม่ปรับขึ้น"นางสาวชุติมา กล่าว
อย่างไรก็ตาม บริษัทยังมั่นใจรายได้ในปี 56 ยังเป็นไปตามเป้าที่ 3 พันล้านบาท โดยครึ่งปีแรกบริษัทมีรายได้เกือบ 1.3 พันล้านบาท และในไตรมาส 3/56 มียอดรับรู้รายได้ราว 700 ล้านบาท ส่วนไตรมาส 4/5 จะมียอดรับรู้รายได้เข้ามาอีกกว่า 500 ล้านบาท ขณะที่รายได้ส่วนที่เหลือบริษัทพยายามขายโครงการที่สามารถรับรู้รายได้ในปีนี้ให้ได้กว่า 400 ล้านบาท
"ถ้าดูจากรายได้ 9 เดือน เราก็คาดว่าจะทำได้ราวๆ 2 พันล้านบาท ซึ่งดีกว่ารายได้รวม 9 เดือนในปีก่อน ไตรมาส 4/56 ก็จะมียอดรับรู้รายได้เข้ามาอีก 500 กว่าล้านบาท ที่เหลือเราก็จะพยายามขายโครงการที่สามารถรับรู้รายได้ในปีนี้ทัน ก็ยังคิดว่ารายได้ในปีนี้เป็นไปตามเป้า 3 พันล้านบาท และยังมียอด Backlog ที่จะรับรู้รายได้ในปี 57 อีกราว 300-400 ล้านบาท"นางสาวชุติมา กล่าว
สำหรับในช่วงที่เหลือของปีบริษัทจะเปิดโครงการใหม่อีก 2 โครงการ มูลค่าโครงการรวม 900 ล้านบาท ได้แก่ โครงการบ้านเดี่ยวที่พระราม 7-ศรีนครินทร์ มูลค่าราว 500 ล้านบาท และโครงการทาวน์โฮม ลีออง สุขุมวิท 62 มูลค่าราว 400 ล้านบาท และในปีหน้าบริษัทมีแผนเปิดโครงการใหม่เพิ่มอีก 5 โครงการ มูลค่า 3-4 พันล้านบาท ได้แก่ โครงการแนวราบ 3 โครงการ คอนโดมิเนียม 2 โครงการ
นอกจากนี้บริษัทจะมีการซื้อที่ดินเพิ่มอีก 1-2 แปลงในช่วงครึ่งปีหลัง เพื่อนำมาพัฒนาโครงการใหม่ในอนาคต โดยใช้เงินซื้อที่ดินตามงบลงทุนที่ตั้งไว้ 1 พันล้านบาท ซึ่ง 8 เดือนแรกบริษัทใช้งบลงทุนไปแล้วราว 300 ล้านบาท
"ที่ดินที่เราจะซื้อเพิ่มในครึ่งปีหลังมองไว้ 1-2 แปลง เงินซื้อที่ดินก็ตามงบที่ตั้งไว้ 1 พันล้านบาท เรามองการพัฒนาโครงการคอนโดเพิ่มอีก แต่ยังบอกไม่ได้ว่าอยู่ทำเลไหน คอนโดที่เราจะทำราคายูนิตละ 1-2 ล้านบาท เพราะเราจะเน้นเจาะกลุ่มลูกค้าที่ไม่มีศักยภาพซื้อโครงการคอนโดในเมืองระดับ 3-4 ล้านบาทต่อยูนิตได้"นางสาวชุติมา กล่าว
นางสาวชุติมา กล่าวอีกว่า บริษัทมีแผนออกหุ้นกู้วงเงินไม่เกิน 3 พันล้านบาทภายในปีปลายปีนี้ โดยจะทยอยออกคราวละ 400-500 ล้านบาทภายในปลายปีนี้ถึงปี 57 เพื่อนำเงินมาใช้ซื้อที่ดินเพิ่มในการพัฒนาโครงการใหม่ทั้งแนวราบและคอนโดมิเนียม