ทั้งนี้ บริษัทได้ตั้งเป้าหมายในช่วง 3 ปีนี้(ปี 56-58)กำไรสุทธิจากงบการเงินเฉพาะกิจการ ซึ่งหมายถึงกำไรจากธุรกิจดาวเทียมเติบโตเป็น 100% หรือเท่าตัวจากปี 55 ที่มีกำไรสุทธิจากงบการเงินเฉพาะกิจการ 786 ล้านบาท เป็นการพลิกฟื้นมามีกำไรเป็นปีแรกหลังขาดทุนมานาน 5 ปีติดต่อกัน โดยในปี 54 มีผลขาดทุน 476 ล้านบาท
ส่วนรายได้ คาดว่าในช่วงปี 56-58 จะเติบโตปีละ 8-10% โดยสัดส่วนรายได้จาก Broadbrand Sattlelite อยู่ที่ 55% และ Broadcast Sattlelite อยู่ที่ 45% ซึ่งในปี 57 จะเริ่มมีรายได้จากไทยคม 7 เข้ามาหลังจากยิงขึ้นวงโคจรได้ในช่วงครึ่งปีแรก
สำหรับในช่วงครึ่งปีหลังปี 56 คาดว่าจะมีกำไรสุทธิใกล้เคียงกับช่วงครึ่งปีแรกที่มีกำไรสุทธิ 521 ล้านบาท ส่วนรายได้ครึ่งปีหลังนี้จะเพิ่มขึ้นจากดาวเทียมไทยคม 6 ที่สามารถขายช่องสัญญาณล่วงหน้าได้แล้ว 66% โดย 64% อยู่ในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ซึ่งเต็มแล้ว อีก 2% อยู่ในแอฟริกา เหลือช่องสัญญาณ 34% ที่จะขายในแอฟริกาต่อไป ซึ่งได้รับความสนใจจากลูกค้าโดยเฉพาะทางเหนือและตะวันออกของแอฟริกา บริษัทจะเน้นไปที่ลูกค้าในเคนยา, คองโก, แทนซาเนีย, อียิปต์ และโซมาเลีย
นางศุภจี กล่าวว่า การรับรู้รายได้จากการขายช่องสัญญาณดาวเทียมไอพีสตาร์ในจีน 24% ของปริมาณช่องสัญญาณทั้งหมดของไอพีสตาร์นั้น ระหว่างนี้ บริษัทรอการอนุมัติจากที่ประชุมผู้ถือหุ้นของ บริษัท ซินเนอร์โทน คอมมิวนิเคชั่น คอร์ปอเรชั่น (Synertone) หลังจากที่ได้รับอนุญาตจากตลาดหลักทรัพย์ฮ่องกงในการให้บริษัททำสัญญาขายช่องสัญญาณดาวเทียมทั้งหมดในจีนให้แก่ บริษัท วาสซัคเซส โฮลดิ้ง ลิมิเต็ด (Vast) ซึ่งถือหุ้นทั้งหมดโดย Synertone สัญญาอายุ 9 ปีครึ่ง โดยคาดว่าน่าจะผ่านและจะรับรู้รายได้ในไตรมาส 4/56
ปัจจุบัน ยอดการใช้งานช่องสัญญาญดาวเทียมไอพีสตาร์อยู่ที่ 54% และตั้งเป้าสิ้นปี 56 จะมียอดการใช้อยู่ที่ 59%
นางศุภจี กล่าวว่า บริษัทอยู่ระหว่างศึกษาการส่งดาวเทียมไทยคม 8 ในตำหน่ง 78.5 องศาตะวันออก คาดว่าจะได้ข้อสรุปในเดือน ต.ค.นี้ เพื่อรองรับความต้องการในธุรกิจ Broadcast ที่มีอยู่สูง โดยเฉพาะทีวีดิจิตอล ที่จะเปิดช่องฟรีทีวีใหม่ 48 ช่อง และความต้องการใช้งานในช่องคมชัดสูง(HD) เบื้องต้นคาดว่าจะมีขนาดใกล้เคียงกับไทยคม 6 และรูปแบบระดมทุนเหมือนกันที่จะมีการใข้เงินกู้ประมาณ 80% ส่วนที่เหลือ 20% จะใช้เงินของบริษัท ที่มีกระแสเงินสดเข้ามาไตรมาสละประมาณ 3 พันล้านบาท