สำหรับ พันธบัตรรัฐบาล รุ่นที่นิยมซื้อขายสูงสุดในวันนี้คือ พันธบัตรรุ่น LB196A, LB236A และ LB176A (รุ่นอายุ 5.8 ปี, 9.8 ปี และ 3.8 ปี ตามลำดับ) โดยมีมูลค่าการซื้อขายรวมกัน 20,555 ล้านบาท หรือคิดเป็น 70% ของมูลค่าการซื้อขายพันธบัตรรัฐบาลทั้งหมด ทางด้าน หุ้นกู้เอกชน รุ่นที่นิยมซื้อขายสูงสุด 3 อันดับแรกในวันนี้ คือ
1. หุ้นกู้มีประกันของบริษัท โตโยต้า ลีสซิ่ง (ประเทศไทย) จำกัด (TLT14DA) มูลค่า 99.1 ล้านบาท
2. หุ้นกู้ไม่มีประกันของบริษัท กรุงเทพดุสิตเวชการ จำกัด (มหาชน) (BGH153A) มูลค่า 61.8 ล้านบาท
3. หุ้นกู้มีประกันของบริษัท โกลว์ พลังงาน จำกัด (มหาชน) (GLOW218A) มูลค่า 60.6 ล้านบาท
โดยมีมูลค่าการซื้อขายรวมกัน 221.5 ล้านบาท หรือคิดเป็น 39.2% ของมูลค่าการซื้อขายหุ้นกู้เอกชนทั้งหมดในวันนี้
ทางด้านประเภทของนักลงทุน ที่มีมูลค่าการซื้อขายสูงที่สุดเป็น 2 อันดับแรกในวันนี้ คือ
1. กลุ่มบริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน (บลจ.) มียอดขายสุทธิ เท่ากับ -3,442 ล้านบาท
2. กลุ่มบริษัทจดทะเบียนในประเทศ มียอดซื้อสุทธิ เท่ากับ 1,589 ล้านบาท
ในขณะที่นักลงทุนต่างชาติ มียอดซื้อสุทธิ เท่ากับ 5,729 ล้านบาท
ผลตอบแทนของพันธบัตรรัฐบาลอายุ 3 เดือน ปิดที่ 2.53% ปรับตัวลดลงจากเมื่อวาน -0.01% และผลตอบแทนของพันธบัตรรัฐบาลอายุ 5 ปี ปิดที่ 3.73% ปรับตัวลดลงจากเมื่อวาน -0.01%
Yield Curve ปรับตัวลดลงในช่วงอายุตั้งแต่ 3 ปีขึ้นไป ประมาณ 1-7 bps. โดยมีแรงซื้อจากนักลงทุนต่างชาติในพันธบัตรรุ่นอายุ 5-10 ปี ปัจจัยหลักนักลงทุนยังคงรอผลการประชุมคณะกรรมการนโยบายการเงินสหรัฐฯ (FOMC) ในคืนนี้ สำหรับนักลงทุนต่างชาติ มียอดซื้อสุทธิ (NET BUY) เท่ากับ 5,729 ล้านบาท