สำหรับปีนี้บริษัทยังคงมุ่งเน้นเรื่องการรักษาอัตรากำไรสุทธิให้ได้ไม่น้อยกว่าระดับ 20% และตั้งเป้ารายได้ไม่น้อยกว่า 15% โดยขณะนี้อยู่ระหว่างติดตั้งสื่อบริเวณตอม่อใต้สะพานข้ามแยกจำนวน 249 ป้ายทั่วกรุงเทพฯ นอกจากนี้ ยังจะเดินหน้าสร้างมูลค่าเพิ่มให้กับสื่อเดิม โดยการเปลี่ยนป้าย Billboard เป็น LED รวมถึงขยายจุดพื้นที่โฆษณาทั้งในและต่างประเทศ และการรุกทำตลาดสื่อโฆษณาภายนอกที่อยู่อาศัยในประเทศสมาชิกประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน(AEC)
นายนพดล ตัณศารักษ์ ประธานเจ้าหน้าที่ริหาร MACO เปิดเผยว่า บริษัทจะมีข้อสรุปในการรุกตลาดสื่อในภูมิภาคอาเซียน (AEC) 1 ประเทศ ในไตรมาส 4/56 โดยบริษัทจะร่วมทุนกับพันธมิตรท้องถิ่น มองสัดส่วนการลงทุนที่ 40% และคาดว่าจะเริ่มรับรู้รายได้จากต่างประเทศเข้ามาในปี 57
“ไตรมาส 4/56 ก็จะมีข่าดีในการรุกตลาด AEC 1 ประเทศ เราไปร่วมกับพันธมิตรท้องถิ่นเพื่อเป็นการลดความเสี่ยง เนื่องจากรู้เรื่องในท้องถิ่นดีกว่าเรา และเราก็เชี่ยวชาญในด้านธุรกิจเรา สำหรับลักษณะของรูปแบบจะเป็นแบบสัมปทานป้ายกลางแจ้ง ส่วนเรื่องเงินลงทุนเราก็มีความพร้อม เรามีเงินสดประมาณ 200 ล้านบาท และมีเครดิตไลน์จากแบงก์ 300 ล้านบาท"นายนพดล กล่าว
สำหรับอุตสาหกรรมสื่อกลางแจ้งในปีนี้คาดเติบโตในข่วง 10-15% เนื่องจากแนวโน้มภาวะของเศรษฐกิจที่ชะลอตัวในปัจจุบันส่งผลต่อการตัดสินใจลงโฆษณาของลูกค้า แต่เชื่อว่าไม่ส่งผลกระทบต่อรายได้ของบริษัทมากนัก เนื่องจากบริษัทมีมาตรการในการดึงดูดลูกค้าด้วยการเพิ่มพื้นที่โฆษณาประกอบกับ บริษัทมีการทำสัญญากับลูกค้าในระยะยาว 6 เดือน ถึง 1 ปี เพื่อลดความเสี่ยง
“แม้อุตสาหกรรมสื่อโฆษณากลางแจ้งจะโตลดลงจากภาวะเศรษฐกิจ แต่ผลการดำเนินงานของบริษัทในปีนี้ก็ยังมีการเติบโตดีกว่าปีก่อนรายได้และกำไร เรามีการเพิ่มพื้นทีเช่าให้กับลูกค้าเพื่อสร้างความพึงพอใจและการทำสัญญาระยะยาว 6 เดือน ถึง 1 ปี เพื่อป้องกันคามเสี่ยงของเรา"นายนพดล กล่าว