การระดมเงินในครั้งนี้จะเป็นการขายหุ้นทั้งหมด 295 ล้านหุ้น โดยแบ่งเป็นขายให้กับผู้ถือหุ้นเดิม 118 ล้านหุ้น และขายให้กับประชาชนทั่วไป 177 ล้านหุ้น ซึ่งหุ้นที่ขายให้กับประชาชนทั่วไปจะแบ่งขายให้กับนักลงทุนสถาบัน 145 ล้านหุ้น โดย 2 ใน 3 จะแบ่งเป็นขายให้กับสถาบันในประเทศ ส่วนที่เหลือขายให้กับสถาบันต่างประเทศ โดยคาดว่าจะสามารถระดมทุนได้ทั้งหมด 2.8 พันล้านบาท โดยบริษัทจะนำเงินดังกล่าวไปใช้เป็นเงินทุนสำรองของบมจ.ไทยรีประกันภัยต่อ (THRE) ซึ่งบริษัทแม่ เนื่องจากได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์น้ำท่วม
จากผลกระทบดังกล่าวทำให้ บมจ.ไทยรีประกันภัยต่อ ถูกปรับลดอันดับเรตติ้งลงมาอยู่ที่ระดับ BBB จากก่อนหน้าอยู่ที่ระดับ A-
"เงินที่ได้จากการขาย IPO ในบมจ.ไทยรีประกันชีวิต ที่เป็นบริษัทลูก จำนวนหุ้นที่มาขายบริษัทแม่ได้มีการขายหุ้นคืนให้บริษัทลูก 49% เพื่อที่จะระดมทุนนำเงินกลับไปให้บริษัทแม่ในการนำเงินไปเป็นทุนสำรองที่ได้ผลกระทบจากภาวะน้ำท่วมที่บริษัทแม่ต้องจ่ายเงินประกันให้กับลูกค้า ซึ่งปัจจุบันก็ยังเคลมประกันยังไม่หมด เงินประกันก็ยังต้องจ่ายอยู่เรื่อยๆ เราจึงต้องตั้งสำรองไว้เพื่อความปลอดภัยของบริษัท เพื่อเป็นทุนสำรองจะทำให้ความน่าเชื่อถือของบริษัทมีเพิ่มขึ้น แต่เรตติ้งจะเพิ่มขึ้นมาเหมือนเดิมหรือไม่นั้นก็ต้องขึ้นอยู่กับบริษัทที่ทำการประเมิน" นายสุรชัย กล่าว
นายสุรชัย กล่าวต่อว่า ในปีนี้บริษัทคาดว่ารายได้จากเบี้ยประกันชีวิตของบริษัทจะมีการเติบโตประมาณ 20% หรืออยู่ที่ 1.4 พันล้านบาท จากปีก่อน 1.1 พันล้านบาท ซึ่งเป็นการเติบโตมาจากการที่บริษัทได้มีการการออกผลิตภัณฑ์ใหม่ๆ เพิ่มเติม รวมไปถึงได้มีการร่วมกับบริษัทประกันอื่นๆในการเสนอขายผลิตภัณฑ์ทำให้เข้าถึงลูกค้าได้ง่ายขึ้น ส่งผลทำให้เบี้ยประกันมีการเติบโต และส่งผลต่อการเติบโตของกำไรสุทธิ ซึ่งบริษัทคาดว่ากำไรสุทธิในปีนี้จะอยู่ที่ 300 ล้านบาท จากปีก่อนอยู่ที่ 220 ล้านบาท
สำหรับภาพรวมตลาดประกันในปีนี้มองว่ามีการเติบโตไม่ต่ำกว่า 4.5 แสนล้านบาท จากปีก่อนที่ 3.8 แสนล้านบาท เนื่องจากนโยบายภาครัฐที่มีการกระตุ้นเศรษฐกิจ ทำให้คนชั้นกลางเพิ่มมากขึ้น ส่งผลให้มีคนซื้อประกันมากขึ้น ประกอบกับการซื้อประกันสามารถไปลดหย่อนภาษีได้ ส่งผลให้ภาพรวมประกันปีนี้จะมีการเติบโตขึ้น