นายจรัมพร โชติกเสถียร กรรมการและผู้จัดการ ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย(ตลท.)กล่าวว่า ภาวะตลาดหุ้นไทยในขณะนี้ยังคงผันผวนไปตามการคาดการณ์เกี่ยวกับทิศทางการปรับลดขนาดมาตรการ QE ของสหรัฐ ส่วนปัจจัยเกี่ยวกับ พ.ร.บ.กู้เงิน 2 ล้านล้านบาทเพื่อลงทุนด้านโครงสร้างพื้นฐานของประเทศนั้น ในช่วงสั้นตลาดฯรับรู้ไปหมดแล้ว คงต้องรอดูในช่วง 6 เดือนถึง 1 ปีข้างหน้าว่าบริษัทจดทะเบียนรายใดจะได้รับประโยชน์จากโครงการลงทุนต่าง ๆ อย่างชัดเจน
"ตลาดหุ้นไทยช่วงนี้ขึ้นกับนโยบายเฟดจะออกมา ภาวะก็จะเป็นอย่างนั้นจนกว่าความจริงจะเกิด ภาพตลาดจึงจะชัดเจน ตราบใดที่ยังประกาศนโยบายสวนกันอยู่ก็จะกระทบตลาดหุ้นโดยเฉพาะเอเชีย ดังนั้นนักลงทุนต้องระมัดระวัง"นายจรัมพร กล่าว
สำหรับอัตราแลกเปลี่ยนที่ผันผวนในขณะนี้ มองว่ามีผลต่อตลาดหุ้นน้อยมาก เพราะตลาดหุ้นในช่วง 14 วันก่อนหน้านี้ปรับขึ้นไปถึง 230 จุด หรือ 16-17% จาก 1,250 ขึ้นมากว่า 1,490 จุด ดังนั้น นักลงทุนต่างชาติจะมองที่ผลตอบแทนการลงทุนมีความน่าสนใจมากกว่าการเก็งกำไรจากค่าเงิน ซึ่งรอบนี้อัตราแลกเปลี่ยนจึงไม่ใช่เป็นแรงดึงดูดมากไปกว่าผลตอบแทนการลงทุน
ส่วนพ.ร.บ.เงินกู้ 2 ล้านล้านบาท ที่จะเข้ามามีผลต่อตลาดหุ้นในระยะสั้นตอบรับไปหมดแล้ว จากนี้ไปมองผลดีในระยะยาวว่าในอีก 6 เดือนหรือ 1 ปีข้างหน้าที่จะเริ่มเห็นว่าใครได้รับผลดีหรือต้องการลงทุนเพิ่ม capacity บ้าง ซึ่งช่วงนั้นตลาดหุ้นยังเป็นแหล่งระดมทุนได้ เพราะเรามีกองทุนโครงสร้างพื้นฐานรองรับหากจะนำสินทรัพย์เก่ามาขายเพื่อระดมทุนก้อนใหม่ก็สามารถทำได้
"เงินกู้ 2 ล้านล้านบาท มีผลต่อตลาดหุ้นในระยะสั้นไปหมดแล้ว จากนี้ไปรอผลดีในระยะยาว อีก 6 เดือน หรือ 1 ปี จะเห็นการลงทุน เพิ่ม capacity ในบริษัทไหนบ้าง"นายจรัมพร กล่าว