ศูนย์หลักจะอยู่ที่เชียงใหม่ ซึ่งบริษัทคาดว่าจะใช้เงินลงทุนในการพัฒนากว่า 2 พันล้านบาท โดยจะทำควบคู่กับศูนย์ที่กรุงเทพฯที่ได้ซื้อที่ดินของ"เดอะ เลกาซี่ กอล์ฟ คลับ"ใกล้ซาฟารีเวิลด์ไว้เพื่อพัฒนาต่อเนื่องจากสนามกอล์ฟเป็นศูนย์สุขภาพเชื่อมโยงกับโรงพยาบาล คาดว่าจะเงินลงทุนกว่า 1,000 ล้านบาท
"ในอนาคตจะเป็นศูนย์ที่แต่ละโรงพยาบาลจะส่งต่อผู้ป่วยหรือผู้สูงอายุเข้ามาบำบัดหรือพักฟื้น ส่วนหนึ่งต้องสร้างคอนโดฯเป็นที่อยู่อาศัยเพื่อให้ครบถ้วนสมบูรณ์ของโครงการ คาดโครงการนี้จะแล้วเสร็จใน 1-2 ปีข้างหน้า"นายชัยสิทธิ์ กล่าว
นายชัยสิทธิ์ กล่าวว่า เบื้องต้น VIBHA จะลงทุน 10% ของเงินลงทุนทั้งหมดกว่า 3,000 ล้านบาท ที่เหลือเป็นการลงทุนของโรงพยาบาลในเครือข่ายผ่านบริษัทร่วมทุนที่จัดตั้งขึ้น คาดว่าจะได้เห็นปี 58 โดยทยอยใช้เงินจากสภาพคล่องยังมีอยู่จากผลการดำเนินงานของบริษัท และอาจใช้เงินกู้บางส่วน ยืนยันว่าจะไม่มีการเพิ่มทุน
"ลงทุนก็ต้องหาผลกำไร เราจะมีบริการครบถ้วน ผู้สูงอายุทุกปีจะมากขึ้น คาดปี 58 น่าจะได้เห็นการเปิดให้บริการซึ่งจะรองรับได้เยอะเพราะพื้นที่ใหญ่ รพ.อื่นก็จะส่งต่อมา"นายชัยสิทธิ์ กล่าว
*คาดปี 56 รายได้โต 15% กำไรสูงกว่าปีก่อน พร้อมเดินหน้าขยายลงทุน
นายชัยสิทธิ์ กล่าวอีกว่า บริษัทมั่นใจว่ารายได้และกำไรในปีนี้จะสูงกว่าปีก่อน โดยในด้านรายได้รวมจะพยายามให้เติบโต 15% สูงกว่าเป้าหมายที่วางไว้ในระดับ 10% จากปีก่อนที่มีรายได้กว่า 4 พันล้านบาท หลังจากครึ่งปีแรกมีรายได้แล้ว 2,122 ล้านบาท และครึ่งหลังปกติรายได้จะดีกว่าครึ่งแรก เพราะเป็นช่วงไฮซีซั่นของธุรกิจโรงพยาบาลในฤดูฝน ซึ่งปีนี้ก็คงไม่ลดลงแม้เศรษฐกิจชะลอก็ไม่มีผลกระทบ เนื่องจากเมื่อคนเจ็บป่วยก็ต้องเข้าโรงพยาบาล
ส่วนกำไรในปีนี้ก็น่าจะมากกว่าปีก่อนที่มีกำไร 391 ล้านบาท ตามรายได้ที่เติบโต เพราะนอกจากจะเติบโตจากตัวโรงพยาบาลเองแล้วยังเติบโตจากโรงพยาบาลในเครือที่สามารถทำกำไรได้ทั้งหมด และกระจายไปทางด้านธุรกิจสนามกอล์ฟด้วย โดยปีนี้คาดว่าจะใช้เงินลงทุนราว 400-500 ล้านบาท เป็นการลงทุนต่อเนื่องจากปีก่อน
"ครึ่งหลังไม่กังวลอะไรเพราะบริษัททำมา 20 ปีแล้ว เราก็ค่อยๆ เติบโตไม่หวือหวา เป้าโตปีละ 10% ไปเรื่อยๆ ก็จะโตอย่างมั่นคง"
สำหรับ รพ.วิภาวดีในปัจจุบันมีจำนวนเตียงผู้ป่วย 270-280 เตียง หลังจากเพิ่มขึ้นมา 58 เตียง คาดว่าจะรองรับการเติบโตไปอีกอย่างน้อย 5 ปี ช่วงปี 57 คงไม่ต้องลงทุนเพิ่มแล้ว แต่จะเป็นช่วงที่เริ่มเก็บเกี่ยวผลประโยชน์จากส่วนขยายพื้นที่เดิมไว้ 20,000 กว่า ตร.ม.ที่เปิดอาคารผู้ป่วยหลังใหม่
"ในพื้นที่สร้างใหม่ จะค่อยๆ ใช้ประโยชน์เพิ่มสูงขึ้น เพิ่มเตียงเพิ่งทำเสร็จไปแล้ว สร้างตึกใหม่ใช้เงิน 400-500 ล้านบาท ก็จะทยอยใช้ประโยชน์ ภายในลงทุนไปเกือบหมดแล้ว ตอนนี้ไปขยายข้างนอก"นายชัยสิทธิ์ กล่าว
นายชัยสิทธิ์ กล่าวเพิ่มเติมว่า บริษัทยังมองโอกาสที่จะขยายธุรกิจในลักษณะการซื้อกิจการโรงพยาบาลอื่น หากมีดีลที่เหมาะสม รวมทั้งการเข้าไปถือหุ้นเพิ่มในบมจ.ศิครินทร์ (SKR)หลังจากเข้าซื้อหุ้น 5.8% ก่อนหน้านี้ ในอนาคตหากมีโอกาสก็จะลงทุนเพิ่มถ้ามีคนมาเสนอขายหุ้น เพราะเป็นโรงพยาบาลที่มีคุณภาพ
"ถ้ามีคนมาเสนอขายก็จะไปซื้อเพิ่ม เพราะอย่างน้อยก็เป็น รพ.ที่ทำผลประกอบการดี ธุรกิจดี รพ.มีคุณภาพ ส่วนรพ.อื่นถ้าอยากจะมาร่วมมือกับเราก็ยินดี เพราะธุรกิจต้องไปอย่างนั้นต้องจับมือกันร่วมเป็นพันธมิตรกัน"นายชัยสิทธิ์ กล่าว