"ลองดูเป็นน้ำจิ้ม เราลองลงทุนไฟฟ้าทุกรุปแบบ Solar Rooftop เราเห็นว่ามี Potential"นางสาวสุภามาส กล่าว
นอกจากนี้ บริษัทได้เข้าไปดูลู่ทางการลงทุนในพม่า หลังจากมองเห็นโอกาสการลงทุนค่อนข้างมาก โดยบริษัทจะเริ่มศึกษาโครงการพลังงานน้ำในพื้นที่ใกล้แม่น้ำสาละวิน ซึ่งมองว่าน่าจะมีความเป็นไปได้มาก เพราะเป็นพื้นที่ที่ใกล้กับประเทศไทย แต่ช่วงนี้คงต้องรอให้ทางการพม่าแก้ไขกฎหมายและกฎระเบียบต่าง ๆ ให้แล้วเสร็จก่อน จึงต้องติดตามข้อมูลอย่างใกล้ชิด
สำหรับผลประกอบการในช่วงครึ่งปีหลังปี 56 กรรมการผู้จัดการ CKP คาดว่า รายได้น่าจะดีกว่าครึ่งปีแรกที่มีรายได้ไตรมาสละประมาณ 1 พันล้านบาท เนื่องจากจะรับรู้รายได้เพิ่มเข้ามาจากโรงไฟฟ้าพลังงานความร้อนร่วมบางปะอินโคเจนเนอร์เรชั่น(BIC) เฟส 1 กำลังการผลิตไฟฟ้า 117.5 เมกะวัตต์ และไอน้ำ 19.6 ตันต่อชั่วโมง ที่เริ่มจ่ายไฟเชิงพาณิชย์ตั้งแต่ปลายเดือน มิ.ย.56 และคาดว่าจะเริ่มขายไอน้ำได้ในเดือน ต.ค.56 ดังนั้น รายได้ในไตรมาส 3/56 จะดีขึ้น และจะสูงมากขึ้นในไตรมาส 4/56
ทั้งนี้ บริษัทมั่นใจว่าในปี 56 จะมีรายได้ 5.4-5.5 พันล้านบาทตามเป้าหมาย ขณะที่อัตรากำไรดีขึ้น เนื่องจากการผลิตไฟฟ้าของโรงไฟฟ้าน้ำงึม 2 ในสปป.ลาว สูงกว่าแผน จากช่วงนี้ที่เป็นหน้าน้ำ
"พลังงานน้ำในลาว เข้ามาเป็นโบนัส คือเข้ามามากกว่าประมาณการไว้ น้ำเข้าเยอะมากก็ทำให้ผลิตได้มากขึ้น"นางสาวสุภามาส กล่าว
ในช่วง 6 เดือนแรกของปีนี้ CKP มีรายได้ 2.02 พันล้านบาท กำไรก่อนดอกเบี้ย ภาษี ค่าเสื่อมราคาและค่าตัดจำหน่าย ก่อนผลกระทบจากอัตราแลกเปลี่ยน(FX)มีจำนวน 826 ล้านบาท และมีผลขาดทุนสุทธิ 76.83 ล้านบาท
นางสาวสุภามาส กล่าวว่า ผลขาดทุนที่เกิดขึ้นมาจากการขาดทุนอัตราแลกเปลี่ยน ซึ่งเป็นการขาดทุนทางบัญชี เนื่องจากบริษัทมีหนี้สกุลเงินดอลลาร์สหรัฐ 170 ล้านเหรียญสหรัฐ แต่ก็มีรายได้เป็นเงินดอลลาร์สหรัฐเช่นกัน จึงถือเป็นการ Natural Hedge อยู่แล้ว ดังนั้นจึงจะหารือกับผู้สอบบัญชีว่าจะมีวิธีบันทึบัญชีอย่างไรไม่ให้การขาดทุนหรือกำไรอัตราแลกเปลี่ยนกระทบต่องบกำไรขาดทุนของบริษัท
ปัจจุบัน CKP ถือหุ้นใน บริษัท เซาท์อีสท์ เอเชีย เอนเนอร์จี จำกัด(SEAN) 56% ซึ่ง SEAN เป็นผู้ถือหุ้นใหญ่ในโรงไฟฟ้าพลังงานน้ำ น้ำงึม 2 ในประเทศ สปป.ลาว ขนาด 615 เมกะวัตต์, ลงทุนในธุรกิจผลิตไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ โดยเข้าถือหุ้นใน บริษัท บางเขนชัย จำกัด สัดส่วน 100% ขนาด 8 เมกะวัตต์ บริษัท นครราชสีมา โซล่าร์ จำกัด ถือหุ้น 30% มีกำลังการผลิต 6 เมกะวัตต์ และ บริษัท เชียงราย โซล่าร์ จำกัด ขนาด 8 เมกะวัตต์ ถือหุ้น 30%
นอกจากนี้ บริษัทถือหุ้น 65% ในบริษัท บางปะอิน โคเจนเนอเรชั่น จำกัด ซึ่งตั้งโรงไฟฟ้าพลังงานความร้อนร่วมในนิคมอุตสาหกรรมบางปะอิน จ.พระนครศรีอยุธยา