อย่างไรก็ตาม มีแนวโน้มว่าภาวะเศรษฐกิจโลกกำลังเริ่มฟื้นตัว ส่วนมาตรการ QE ของสหรัฐ ไม่ว่าจะยกเลิกหรือปรับลดขนาด ไม่น่าจะมีผลกระทบต่อธุรกิจของ CPF เนื่องจากมองว่า การบริโภคอาหารยังเป็นสิ่งจำเป็น
ส่วนเรื่องโรค EMS ที่ระบาดในกุ้ง ซึ่งเริ่มระบาดจากประเทศจีนในช่วงหลายปีที่ผ่านมา ลามไปเวียดนาม มาเลเซีย จนกระทั่งมาสู่ไทยเมื่อหลายปีก่อน แต่ตอนนี้ถือว่าอยู่ในสถานการณ์เริ่มควบคุมได้แล้ว เริ่มเลี้ยงเกิน 45 วันได้มากขึ้นและเริ่มมีกุ้งป้อนเข้าโรงงานผลิตได้มากขึ้นเรื่อยๆ ต้องรอเวลาให้มากขึ้นเรื่อยๆ จนสถานการณ์กลับมาที่เดิม
"ปัญหาเรื่องกุ้งที่ผ่านมากระทบการส่งออกของ CPF และกระทบทั้งภูมิภาคไม่ใช่เฉพาะแต่ประเทศไทย"นายสมบัติ กล่าว
ส่วนภาวะน้ำท่วมในขณะนี้ และม็อบเกษตรกรปิดถนนทางใต้ไม่ส่งผลกระทบต่อธุรกิจของ CPF เนื่องจากโรงงานของ CPF ทั่วประเทศล้วนตั้งอยู่ในที่ดอน ขณะที่เส้นทางที่มีม็อบปิดถนนก็ไม่ใช่เส้นทางสู่โรงงานของ CPF ในภาคใต้
อย่างไรก็ตาม น้ำท่วมใหญ่เมื่อปลายปี 54 โรงงานของ CPF เสียหายน้อยมาก ส่วนโรงงานบางแห่งที่อยู่ริมน้ำและน้ำท่วมเข้ามา เราทำกำแพง 2 ชั้นหล่อเลี้ยงน้ำตรงกลางมีพลังดันกำแพงทั้ง 2 ด้าน กลายเป็นนวัตกรรมป้องกันน้ำท่วมที่โรงงานสามารถนำไปใช้ได้
ส่วนเรื่องไข้หวัดนก ยืนยันว่าเป็นแค่ข่าวลือทางโซเชียลเน็ตเวิร์ค ไม่กระทบธุรกิจของ CPF เลย เพราะมาตรฐานการเลี้ยงไก่ของ CPF อยู่ในระดับสูงเป็นที่ยอมรับและเชื่อมั่นของผู้ซื้อทั่วโลก แต่เราก็ไม่ประมาท
"ข่าวแบบนี้ทำลายทั้งอุตสาหกรรม น่าสงสารบริษัทอุตสาหกรรมเล็กๆที่ได้รับผลกระทบจากเรื่องนี้ ถือเป็นการดิสเครดิตกัน"นายสมบัติ กล่าว
นายสมบัติ กล่าวว่า การดำเนินการทุกอย่างของ CPF ตั้งแต่ต้นน้ำจนถึงปลายน้ำมีธรรมาภิบาล เกี่ยวกับเรื่องจริยธรรม ความปลอดภัย ความมั่นคง ความไม่กระทบสิ่งแวดล้อม ทั้งพืช คน สัตว์ น้ำจืด มหาสมุทร ป่าไม้
นายสมบัติ กล่าวต่อว่า CPF มีแผนจะเข้าไปอยู่ในดัชนีวัดประสิทธิผลการดำเนินธุรกิจตามแนวทางการพัฒนาอย่างยั่งยืนดาวน์โจนส์ (Dow Jones Sustainability Indexes-DJSI) ภายใน 2-4 ปีข้างหน้า โดยขณะนี้อยู่ระหว่างการศึกษาและเตรียมความพร้อมในทุกๆด้าน ซึ่งถือเป็นบริษัทไทยรายที่ 2 ต่อจากเครือปูนซีเมนต์
ปัจจุบัน CPF เป็นบริษัทที่มีรายได้ที่ถูกจัดอยู่ในอันดับที่ 914 ของโลกในฟอร์บส์ 2000