(เพิ่มเติม) ภาวะตลาดหุ้นไทย: แนวโน้มดัชนีเช้านี้ปรับตัวลงจากแรงขายทำกำไร, จับตาตัวเลขส่งออกวันนี้

ข่าวหุ้น-การเงิน Thursday September 26, 2013 09:37 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นายอภิชาติ ผู้บรรเจิดกุล ผู้อำนวยการสายงานวิเคราะห์เชิงกลยุทธ์ บล.ทิสโก้ กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยเช้านี้มีโอกาสที่ยังปรับตัวลงได้อยู่จากแรงขายทำกำไรหลังจากที่เมื่อวานนี้ในช่วงท้ายตลาดฯมีการดีดตัวขึ้น ทั้งที่ยังไม่ได้มีปัจจัยใหม่อะไรเข้ามา และตลาดหุ้นอื่นในภูมิภาคเอเชียเช้านี้ส่วนใหญ่ก็อยู่ในแดนลบเล็กน้อยราว 0.2-0.5%

ทั้งนี้ ตลาดสหรัฐฯยังคงปรับตัวลงอยู่ เนื่องจากมีความกังวลเกี่ยวกับการเจรจาเรื่องงบประมาณ ทำให้ Bond Yield 10 ปี ก็ปรับตัวลงด้วย แสดงให้เห็นว่านักลงทุนเลี่ยงที่จะถือสินทรัพย์เสี่ยง

ส่วนตลาดบ้านเราวันนี้ก็มีลุ้นตัวเลขการส่งออกของไทย ซึ่งน่าจะออกมาดี โดยคาดว่าสามารถพลิกเป็นบวกได้ และจะเป็นครั้งแรกในรอบ 3 เดือน และหากตัวเลขส่งออกไทยออกมาดีจริงก็จะทำให้ตลาดฯมีการดีดกลับได้ในระหว่างวัน

พร้อมให้แนวรับ 1,420-1,425 จุด แนวต้าน 1,440-1,450 จุด

ประเด็นของการพิจารณาการลงทุน :

  • ตลาดหุ้นนิวยอร์ควานนี้(25 ก.ย.)ดัชนีดาวโจนส์ ปิดที่ 15,273.26 จุด ลดลง 61.33 จุด(-0.40%) ดัชนีเอสแอนด์พี 500 ปิดที่ 1,692.77 จุด ลดลง 4.65 จุด(-0.27%) และดัชนีแนสแด็ก ปิดที่ 3,761.10 จุด ลดลง 7.15 จุด(-0.19%)
  • ตลาดหุ้นเอเชียเปิดเช้านี้ ดัชนี NIKKEI 225 ตลาดหุ้นญี่ปุ่นเปิดวันนี้ ลดลง 67.47 จุด, ดัชนี SSE Composite ตลาดหุ้นจีนเปิดวันนี้ ลดลง 6.29 จุด, ดัชนี HSI ตลาดหุ้นฮ่องกงเปิดวันนี้ ลดลง 16.93 จุด, ดัชนี TAIEX ตลาดหุ้นไต้หวันเปิดวันนี้ เพิ่มขึ้น 6.20 จุด, ดัชนี KOSPI ตลาดหุ้นเกาหลีใต้เปิดวันนี้ ลดลง 5.96 จุด, ดัชนี FTSE STI ตลาดหุ้นสิงคโปร์เปิดวันนี้ลดลง 10.13 จุด, ดัชนี PSE Composite ตลาดหุ้นฟิลิปปินส์เปิดวันนี้ ลดลง 0.23 จุด, ดัชนี FBMKLCI ตลาดหุ้นมาเลเซียเปิดวันนี้ เพิ่มขึ้น 0.24 จุด และดัชนี S&P/ASX 200 ตลาดหุ้นออสเตรเลียเปิดวันนี้ ลดลง 1.20 จุด
  • ตลาดหุ้นไทยปิดเมื่อวานนี้(25 ก.ย.)ที่ 1,436.90 จุด เพิ่มขึ้น 19.13 จุด (+1.35%)
  • นักลงทุนต่างชาติขายสุทธิ 2,432.42 ล้านบาท เมื่อ 25 ก.ย.56
  • ราคาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือน พ.ย.ในตลาดไนเม็กซ์ปิดทำการวานนี้(25 ก.ย.)ที่ 102.66 ดอลลาร์/บาร์เรล ลดลง 0.47 ดอลลาร์ฯ
  • ค่าการกลั่นอ้างอิงตลาดสิงคโปร์ปิดวานนี้(25 ก.ย.)ที่ 2.6 เหรียญฯ/บาร์เรล
  • เงินบาทเปิด 31.26/28 ยังไม่มีทิศทางชัดเจน
  • ผู้ค้าทอง 7 รายใหญ่ขอตลาดหลักทรัพย์-ก.ล.ต.ตัวกลางประสานพบผู้ว่าการธปท.เพื่อขอความชัดเจนเกณฑ์ควบคุมและหน่วยงานควบคุมผู้ค้าทอง ยันไม่ได้เก็งกำไรค่าเงิน แจงการ "เทรดโกลด์ออนไลน์" เป็นวิธีซื้อขายคล่องตัว โดยเฉพาะช่วงทองผันผวน "วายแอลจี" เผยยอดขาย 7 เดือนปีนี้ 4 แสนล้านผ่านระบบออนไลน์ชี้ไม่ถึง 20% ระบุการซื้อขายผ่านออนไลน์ต้องวางหลักประกัน 10-20 เท่าของวงเงินซื้อขาย
  • นายกฯ ห่วงอุตสาหกรรมชิ้นส่วนคอมพิวเตอร์-อิเล็กทรอนิกส์ ปรับตัวไม่ทันตลาด ฉุดส่งออกภาพรวม เล็งถกเอกชนช่วยแก้ปัญหารายกลุ่มสินค้า ประเดิมกลุ่มสปาและความงามศุกร์นี้ "โอฬาร" เผยถกเอกชน 45 กลุ่มส่งออกกำหนดเป้าส่งออกปี 2557เดือนต.ค.นี้ หลังปีนี้หลุดเป้า พาณิชย์แจงขาดดุลการค้าเหตุแห่นำเข้าทองจำนวนมาก "ณรงค์ชัย" ประเมินดอกเบี้ยนโยบายยังไม่ปรับลดเร็วๆ นี้ มั่นใจเศรษฐกิจไทยยังโตได้ 4% แม้การส่งออกต่ำเป้า
  • เอกชน เตรียมแผนฉุกเฉินรับมือ"น้ำท่วม"ค้าปลีก หารือซัพพลายเออร์บริหารสต็อก-เส้นทางกระจายสินค้า ดึงประสบการณ์วิกฤติปี 2554 ปรับใช้ "บีเจซี"เผยหลายจังหวัดลูกค้าเริ่มชะลอคำสั่งซื้อสินค้า เหตุร้านค้าน้ำท่วม งัดแผนระบายตลาดหลังน้ำลด มั่นใจเหตุการณ์ไม่รุนแรง
  • นายประชา ชัยสุวรรณ ประธานชมรมผู้ติดตามหนี้ที่เป็นธรรม เปิดเผยว่า ขณะนี้มีสัญญาณชัดเจนว่าหนี้สินเชื่อส่วนบุคคลและสินเชื่อบัตรเครดิตน่าเป็นห่วงมากที่สุด เพราะลูกหนี้หมุนเงินโดยการกดเงินสดเพื่อมาจ่ายค่างวดเช่าซื้อรถยนต์ ทำให้มีผลกระทบความสามารถในการชำระหนี้ยอดหนี้เก่า
  • สำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน (บีโอไอ) รายงานว่า ระยะ 8 เดือนแรกของปีนี้ มีโครงการลงทุนโดยตรงจากต่างประเทศ (เอฟดีไอ) ยื่นขอรับส่งเสริมรวม 780 โครงการ ลดลง 17.5% คิดเป็นมูลค่าลงทุน 3.16 แสนล้านบาท ลดลง 18.3% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน ที่มีมูลค่าลงทุน 3.87 แสนล้านบาท เฉพาะเดือน ส.ค. มีการยื่นขอรับส่งเสริมเพียง 83 โครงการ มูลค่า 1.83 หมื่นล้านบาทสาเหตุมาจากเศรษฐกิจโลกที่ยังไม่ฟื้นตัว
  • น.ส.เพ็ญศรี สุธีรศานต์ ผู้อำนวยการสมาคมบริษัทจดทะเบียนไทย เปิดเผยว่าในวันที่ 10-11 ต.ค. สมาคมจะนำบริษัทจดทะเบียน (บจ.) ขนาดกลางและขนาดเล็กกว่าที่จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย และตลาดหลักทรัพย์เอ็ม เอ ไอ กว่า 20 บริษัท ไปพบนักธุรกิจของพม่า เพื่อหาโอกาสทำธุรกิจร่วมกัน โดยให้บริษัท เคพีเอ็มจี ประเทศไทย และทางธนาคารกสิกรไทยเป็นผู้ร่วมจัดงาน เนื่องจากทั้งสองบริษัทมีสำนักงานในพม่า
  • "ประกันสังคม" ปรับแผนลงทุน 5 ปี เพิ่มลงทุนสินทรัพย์เสี่ยงเป็น 36% จากเดิม 20% หวังขยับผลตอบแทนเฉลี่ย ขึ้นเป็น 5.5% จากเดิม 4.5% พร้อมลง สัญญาจ้าง 5 บลจ.บริหารเงินกรณีชราภาพ 45,000 ล้านบาท ให้กรอบการลงทุนหุ้น ไม่เกิน 20% และเตรียมแยกหน่วยงานลงทุนออกมาบริหารจัดการเงินลงทุนโดยเฉพาะ คาดเป็นรูปธรรมในปีหน้า
  • "โฆสิต" ชี้เศรษฐกิจไทยขาดแรงหนุน คาดทั้งปีโตได้ต่ำกว่า 4% หลังการบริโภคและการส่งออกอ่อนแรงลง ลุ้นการลงทุนภาครัฐกระตุ้นการลงทุนในปีหน้า มั่นใจสินเชื่อยังโตได้ตามเป้าหมาย 6-7% ย้ำห่วงภาคการออมต่ำกดดันการบริโภคในอนาคต พร้อมออกหุ้นกู้ต่างประเทศวงเงิน 1,000 ล้านดอลลาร์

*หุ้นเด่นวันนี้

  • SAMART(เคเคเทรด)"ซื้อ"เป้า 24.80 บาท ประเมินกำไรสุทธิใน 3Q56 เพิ่มขึ้นทั้ง QoQ และ YoY ขณะที่ใน 4Q56 บริษัทจะมีการรับรู้รายได้จากไครงข่ายวิทยุการบินเข้ามาบางส่วน หลังการเซ็นสัญญาใน ต.ค.2556 ทำให้เป้าหมายกำไรสุทธิปี 2556 ที่ประเมินไว้ที่ 1.3 พันล้านบาท เพิ่มขึ้น 23% YoY มีความเป็นไปได้สูง นอกจากนี้บริษัทมีแผนจะเข้าร่วมประมูลงานใหม่อีกราว 2-2.5 หมื่นล้านบาท ได้แก่ โครงการสมาร์ทไทยแลนด์ และ 3G เฟส 2 นอกจากนี้ประเด็นที่จะช่วยสนับสนุนราคาหุ้นในระยะต่อไปคือประเด็นการนำบริษัทลูกอย่างบริษัท วันทูวัน คอนแทคส์ จำกัดเข้าจดทะเบียนใน 1Q56
  • BCP(เคเคเทรด)"ซื้อ"เป้า 40 บาท แนวโน้มผลการดำเนินงานในไตรมาสที่ 3 ที่แข็งแกร่ง โดยที่ประเมินกำไรสุทธิใน 3Q56 ไว้ไม่ต่ำกว่า 1.4 พันล้านบาท หรือเพิ่มขึ้นทั้ง QoQ และ YoY โดยมีปัจจัยหนุนจากกำลังการกลั่นที่เพิ่มขึ้น, ค่าการกลั่นพื้นฐานที่ฟื้นตัว และการรับรู้ผลของมูลค่า Stock ที่พลิกมาเป็นกำไรไม่น้อยกว่า 1 พันล้านบาท จากที่มีผลขาดทุน 919 ล้านบาทใน 2Q56 ประเมินกำไรสุทธิในปี 2556 ไว้ที่ 5.16 พันล้านบาท เพิ่มขึ้น 20.9% YoY
  • CPF(ทรีนีตี้)"ซื้อ"เป้า 31 บาท ผู้บริหาร CPF เปิดเผยว่าการเจรจาซื้อโรงงานแปรรูปอาหารสำหรับคนในกลุ่มยูโรโซนเป็นผลสำเร็จแล้ว มองว่าจะสามารถใช้เป็นช่องทางในการส่งออกวัตถุดิบ สำหรับการลงทุนในคาร์ฟูร์นั้นยังมองว่าเป็นโอกาสขยายตลาดในกลุ่มยุโรปและละตินอเมริกา โดยมองว่าเป็นปัจจัยบวกสนับสนุนการเติบโตของยอดขายในระยะยาว ขณะที่คาดว่าผลประกอบการจะเริ่มฟื้นตัว ภายหลังปัญหาโรค EMS เริ่มมีแนวโน้มดีขึ้น
  • KCE (เมย์แบงก์ กิมเอ็ง)"ทยอยสะสม"เป้า 21 บาท ยืนยันมุมมองเชิงบวกต่อทิศทางผลประกอบการของบริษัท ที่ยังมีทิศทางเติบโตต่อเนื่องในช่วง 3 ปีข้างหน้า จากการฟื้นตัวเศรษฐกิจโลก ซึ่งจะช่วยหนุนอุตสาหกรรมรถยนต์ และความต้องการสินค้าอิเล็กทรอนิคส์ให้ขยายตัว เบื้องต้นคาดว่ากำไรปกติ 3Q56 จะขยายตัว +23.9% yoy และ +52.2% qoq เป็น 300 ล้านบาท จากอัตรากำไรขั้นต้นที่คาดว่าจะเร่งตัวขึ้นทั้ง yoy และ qoq จากการใช้กำลังการผลิตเกือบเต็มที่ของทุกโรงงาน นอกจากนั้น ยังได้อานิสงค์จากการอ่อนค่าของเงินบาท 0.7% QTD เป็น 31.25 บาท / USD จากสิ้นสุด 2Q56 ที่ 31.3 บาท / USD
และประมาณการปัจจุบันคาดว่ากำไรปกติปี 2556 จะเติบโต +1233% yoy เป็น 760 ล้านบาท ราคาหุ้นมี Valuation ที่น่าสนใจ

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ