"ไข้หวัดนกไม่กระทบธุรกิจเราตั้งแต่ปี 47 ไม่เคยมีปัญหาใดๆ ทั้งสิ้นเกี่ยวกับไข้หวัดนก ทุกวันนี้ตลาดส่งออกทั้งหมดยังมาซื้อขายกับเรา ส่วนลูกค้าในประเทศก็ยังเดินเข้ามาสั่งออร์เดอร์อย่างต่อเนื่อง และยังเชื่อมั่นในคุณภาพ เพราะ CPF มีระบบและมาตรการป้องกัน ติดตาม และเฝ้าระวังตลอดเวลา ธุรกิจยังปกติ โตต่อเนื่องไปอีกยาว"นายธีรศักดิ์ กล่าว
บริษัทยังมั่นใจว่าการส่งออกไก่ในปีนี้จะเติบโตทะลุเป้าหมายที่ 20% หลังจากช่วงครึ่งปีแรกเติบโตไปแล้วราว 15% หรือคิดเป็นปริมาณขาย 1 แสนตัน จากปีก่อนที่ 8 หมื่นตัน เนื่องจากผลผลิตในประเทศลดลงทำให้คู่แข่งส่งออกไม่ได้ตามเป้า ประกอบกับเงินบาทอ่อนค่าลงส่งผลดีต่อภาพรวมการส่งออกอย่างต่อเนื่อง และแม้ว่าภาพรวมการส่งออกของประเทศยังไม่ฟื้นตัวดีนัก แต่ก็ไม่กระทบต่ออุตสาหกรรมอาหาร
"การส่งออกไก่ยังขยายตัวเพิ่ม โดยเฉพาะ 2 ตลาดใหญ่ญี่ปุ่นและเกาลีใต้หากมีการอนุญาตให้นำเข้าไก่สดแช่แช็งของไทยจะผลักดันการส่งออกของไทยให้ขยายตัวมากขึ้น"นายธีรศักดิ์ กล่าว
ขณะที่บริษัทตั้งเป้ารายได้เติบโต 5-6% จากปีก่อนที่ 3 หมื่นล้านบาท ตามปริมาณผลผลิตไก่ที่เพิ่มขึ้นเป็น 5 แสนตัน/ปี แบ่งเป็นการส่งออก 1 แสนตัน และขายในประเทศ 4 แสนตัน จากปีก่อนมียอดรวมที่ 4 แสนตัน
ปัจจุบัน ราคาไก่สดปรับตัวลงมาที่ 35 บาท/ก.ก.จากที่เคยขึ้นไปถึง 49-50 บาท/ก.ก.ซึ่งเป็นไปตามฤดูกาลที่เข้าสู่ช่วงหน้าฝน และต่อเนื่องถึงการเทศกาลกินเจ และโรงเรียนปิดเทอม แต่ในด้านต้นทุนก็ปรับลดลงด้วย ทั้งราคาข้าวโพดและกากถั่วเหลืองจากที่เคยอยู่ที่ 11 บาท/ก.ก. ลดมาเหลือ 8 บาท/ก.ก. และแนวโน้มไตรมาส 4/56 ยังจะอ่อนตัวลง หากเทียบต้นทุนปีนี้ถือว่าลดลง 5-6% จากปีที่แล้ว
นายธีรศักดิ์ กล่าวต่อว่า บริษัทอยู่ระหว่างศึกษาการขยายกำลังผลิตไก่อีก 5% ในช่วงปลายปีนี้ จากปัจจุบันอยู่ที่ 250 ล้านตัว/ปี รองรับปี 57 ซึ่งขณะนี้ได้รับคำสั่งซื้อเพิ่มจากตลาดญี่ปุ่น คาดเห็นความชัดเจนในหลังจากไตรมาส 3/57 เนื่องจากต้องพิจารณาภาวะตลาดในช่วงต้นปีหน้าก่อน
ปัจจุบัน CPF ส่งออกไปญี่ปุ่นประมาณ 3 หมื่นตัน/ปี ยุโรป 4 หมื่นตัน/ปี