สำหรับ พันธบัตรรัฐบาล รุ่นที่นิยมซื้อขายสูงสุดในวันนี้คือ พันธบัตรรุ่น LB21DA, LB176A และ LB196A (รุ่นอายุ 8.3 ปี, 3.8 ปี และ 5.8 ปี ตามลำดับ) โดยมีมูลค่าการซื้อขายรวมกัน 5,183 ล้านบาท หรือคิดเป็น 72% ของมูลค่าการซื้อขายพันธบัตรรัฐบาลทั้งหมด ทางด้าน หุ้นกู้เอกชน รุ่นที่นิยมซื้อขายสูงสุด 3 อันดับแรกในวันนี้ คือ
1. หุ้นกู้ของบริษัทดับบลิวเอชเอ คอร์ปอเรชั่นจำกัด (มหาชน) (WHA189A) มูลค่า 300.4 ล้านบาท
2. หุ้นกู้ของบริษัท ไทคอน อินดัสเทรียล คอนเน็คชั่น จำกัด (มหาชน) (TICON149A) มูลค่า 100.1 ล้านบาท
3. หุ้นกู้ไม่มีประกันของบริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) (PTTC153A) มูลค่า 92.2 ล้านบาท
โดยมีมูลค่าการซื้อขายรวมกัน 492.8 ล้านบาท หรือคิดเป็น 33.0% ของมูลค่าการซื้อขายหุ้นกู้เอกชนทั้งหมดในวันนี้
ทางด้านประเภทของนักลงทุน ที่มีมูลค่าการซื้อขายสูงที่สุดเป็น 2 อันดับแรกในวันนี้ คือ
1. กลุ่มบริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน (บลจ.) มียอดซื้อสุทธิ เท่ากับ 973 ล้านบาท
2. กลุ่มสถาบันการเงินที่ไม่มีใบอนุญาตเพื่อค้าตราสารหนี้ มียอดซื้อสุทธิ เท่ากับ 847 ล้านบาท
ในขณะที่นักลงทุนต่างชาติ มียอดขายสุทธิ เท่ากับ -667 ล้านบาท
ผลตอบแทนของพันธบัตรรัฐบาลอายุ 3 เดือน ปิดที่ 2.52% ไม่มีการเปลี่ยนแปลงจากเมื่อวาน และผลตอบแทนของพันธบัตรรัฐบาลอายุ 5 ปี ปิดที่ 3.53% ไม่มีการเปลี่ยนแปลงจากเมื่อวาน
Yield Curve ค่อนข้างนิ่งในทุกช่วงอายุตราสาร ปริมาณการซื้อขายยังคงเบาบาง นักลงทุนยังคงจับตาตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐฯ โดยเฉพาะตัวเลขผู้ขอรับสวัสดิการว่างงาน ที่จะประกาศออกมาคืนนี้ ซึ่งอาจจะส่งผลต่อการปรับลดมาตรการ QE ในการประชุมครั้งหน้า และรอติดตามประเด็นปัญหาเรื่องงบประมาณ และเพดานการก่อหนี้สาธารณะของสหรัฐฯ สำหรับนักลงทุนต่างชาติมียอดขายสุทธิ (NET SELL) เท่ากับ 667 ล้านบาท