AOT ตั้งเป้าผลักดันสนามบินสุวรรณภูมิขึ้นเบอร์ 1 ของโลกใน 6 ปีหลังเฟส 2 เสร็จ

ข่าวหุ้น-การเงิน Friday September 27, 2013 16:53 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นายพงศ์ศักติฐ์ เสมสันต์ รองประธานกรรมการ บมจ.ท่าอากาศยานไทย (AOT) หรือ ทอท.ในฐานะรักษาการกรรมการผู้อำนวยการใหญ่ ทอท. เปิดเผย ทอท.ต้องเร่งพัฒนาเพื่อพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันที่จะรุนแรงขึ้นในช่วงปลายปี 58 จากการเปิดประชาคมอาเซียน(AEC) พร้อมกับตั้งเป้าผลักดันให้สนามบินสุวรรณภูมิก้าวสู่การเป็นสนามบินที่มีคุณภาพบริการติดอันดับ 1 ของโลกภายใน 6 ปีข้างหน้าหรือปี 62 จากปัจจุบันอยูในอันดับ 6 ตามที่สภาท่าอากาศยานสากล(ACI)จัดอันดับไว้เมื่อปี 55

แต่ในรายละเอียดพบว่าเป็นรองคู่แข่งหรือท่าอากาศยานสิงค์โปร์ โดยเมื่อเทียบกับสนามบินคู่แข่ง จะพบว่าสนามบินสุวรรณภูมิยังแพ้อยู่ 3 ด้าน คือ 1. ด้านภาษาของบุคลากรที่ยังเป็นรองและเสียเปรียบสิงค์โปร์ ดังนั้นจะเพิ่มการพัฒนาด้านนี้ 2. ความแออัดของสนามบิน และ 3.การให้บริการเพื่ออำนวยความสะดวก

"อีก 6 ปีข้างหน้าแผนขยายสุวรรณภูมิระยะที่ 2 แล้วเสร็จ เราพร้อมจะแข่งขันอย่างเต็มที่และมีโอกาสก้าวขึ้นมาเป็นที่ 1 ได้ เพราะไทยมีความได้เปรียบเรื่องแหล่งท่องเที่ยว ซึ่งคู่แข่งไม่มีในจุดนี้"นายพงศ์ศักติฐ์ กล่าว

นายพงศ์ศักติฐ์ ย้ำว่า ตั้งแต่เปิดใช้สนามบินสุวรรณภูมิเต็มรูปแบบเมื่อปี 49 ถึงปัจจุบันมีการพัฒนาคุณภาพและการให้บริการไปในทางที่ดีขึ้นอย่างต่อเนื่อง ซึ่งพิจารณาได้จากการได้รับรางวัลต่างๆจากหลายสถาบัน เปรียบเสมือนเป็นการรับรองคุณภาพและศักยภาพของสนามบินสุวรรณภูมิในระดับโลก ที่ผ่านมามีการพัฒนาศักยภาพในด้านต่างๆ โดยเฉพาะการเร่งรัดขยายสุวรรณภูมิระยะที่ 2 ให้แล้วเสร็จภายในปี 60 เพื่อรองรับผู้โดยสารเพิ่มจาก 45 ล้านคนต่อปีเป็น 60 ล้านคนต่อปี รวมทั้งปรับปรุงสิ่งอำนวบความสะดวกต่างๆภายในสนามบิน

ตามแผนในปีงบประมาณ 57 ทอท.เตรียมเสนอแพคเกจการพัฒนาสนามบินสุวรรณภูมิโดยกำหนดกรอบการพัฒนาที่ชัดเจน และให้เป็นไปตามเป้าหมาย มีการเร่งปรับปรุงการบริหารจัดการสนามบิน เนื่องจากที่ผ่านมามีผู้โดยสารผ่านเข้าออกจำนวนมากแต่ไม่ได้รับความสะดวก ทำให้การเข้าออกสนามบินยังมีความล่าช้า ดังนั้นจะเร่งปรับปรุงระบบการเคลื่อนย้ายผู้โดยสารให้รวดเร็วมากขึ้น รวมทั้งมีระบบตรวจสอบการใช้เวลาของผู้โดยสารที่อยู่ภายในสนามบินให้ได้ตามมาตรฐานการบิน นับจากเครื่องลงจอดที่รันเวย์จนกระทั่งผ่านออกจากสนามบินจะต้องใช้เวลาน้อยที่สุดไม่เกิน 12-15 นาที

ส่วนผู้โดยสารขาออกจะต้องได้รับความสะดวกสบายในการใช้บริการของสนามบิน โดยเฉพาะระบบเอ็นเตอร์เทนต่างๆ รวมทั้งการประเมินความพึงพอใจของผู้โดยสารเพื่อชี้วัดด้านการให้บริการของสนามบิน โดยกรอบดำเนินการต่าง จะกำหนดเป็นแผนปฏิบัติที่ชัดเจน

นอกจากนี้ นายพงษ์ศักติฐ์ กล่าวว่า มีแนวคิดที่จะร่วมทุนกับสนามบินของประเทศเพื่อนบ้าน ในการรับจ้างบริหารสนามบิน หลังจากที่ก่อนหน้านี้ได้รับการติดต่อจากสนามบินของพม่าที่ต้องการให้ ทอท.เข้าไปช่วยบริหารสนามบินเกิดใหม่ ขณะที่สิงคโปร์ ก็เคยยื่นข้อเสนอในลักษณะนี้มาแล้ว แต่ในเบื้องต้นจะเร่งพัฒนาสนามบินของ ทอท.ให้ดีก่อน โดยเฉพาะการพัฒนาสนามบินสุวรรณภูมิระยะที่ 2 ซึ่งยังมีความล่าช้าจากอุปสรรคในการตัดสินใจอนุมัติโครงการและงบประมาณ ซึ่งเป็นผลกระทบจากเสถียรภาพทางการเมือง แต่ ทอท.จะเร่งเดินหน้าในส่วนที่ดำเนินการได้ก่อน และมั่นใจว่า จะดำเนินการให้แล้วเสร็จภายในปี 60 ซึ่งขั้นตอนอยู่ระหว่างการออกแบบและกำหนดส่งแบบเบื้องต้นภายในเดือน ต.ค.นี้

ด้านนางระวีวรรณ เนตระคเวสนะ ผู้อำนวยการท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ กล่าวว่า ที่ผ่านมามีการเร่งปรับปรุงบริการต่างๆ โดยการพัฒนาสิ่งอำนวยความสะดวกเพื่อให้สามารถรองรับผู้โดยสารที่สูงกว่า 50 ล้านคนต่อปี มีการปรับปรุงพื้นที่ห้องโถงผู้โดยสารขาออกชั้น 4 ให้กว้างขึ้นโดยการย้ายเคาเตอร์ขายบัตรโดยสารทั้งหมดไปอยู่ที่ชั้น 6 ของอาคารผู้โดยสาร ทำให้มีพื้นที่ใช้สอยบริเวณห้องโถงขาออกมีพื้นที่ใช้สอยเพิ่มขึ้นอีก 1 ,000 ตารางเมตร รวมทั้งปรับปรุงห้องน้ำ 124 จุด รวม 1,498 ห้อง ซึ่งเป็นปัญหาในช่วงเปิดใช้สนามบิน แต่ปัจจุบันได้รับการยอมรับและได้รางวัลสุดยอดส้วมประจำปี 2555 ตามมาตรฐาน HAS กระทรวงสาธารสุขด้วย

นอกจากนี้ สนามบินสุวรรณภูมิอยู่ระหว่างก่อสร้างอาคารและระบบลำเลียงกระเป๋าสวัมภาระผู้โดยสารเปลี่ยนเที่ยวบิน ซึ่งเป็นอาคาร 2 ชั้น เหนืออุโมงค์ด้านใต้ซึ่งอยู่ระหว่างอาคารเทียบเครื่องบิน ซี ดี และ อี ทำให้มีพื้นที่ใช้สอยประมาณ 12,079 ตารางเมตร จะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพและความรวดเร็วในการขนส่งสัมภาระผู้โดยสารเปลี่ยนลำได้ 66 ใบต่อนาที และลดระยะเวลาในการขนกระเป๋าสัมภาระจาก 75 นาทีเหลือ 60 นาที


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ