สาเหตุที่ตัดสินใจเลือก “แม็ทชิ่ง สตูดิโอ พลัส" ให้เป็นผู้ผลิตนั้น เพราะมีความเป็นมืออาชีพในด้านนี้ มีความเชี่ยวชาญด้านการผลิตภาพยนตร์ และด้วยประสบการณ์ทำงานที่ยาวนานถึง 40 ปี ของผู้บริหาร แม็ทชิ่ง สตูดิโอ พลัส คือ นายฐนิสสพงศ์ ศศินมานพ ที่มีชื่อเสียงและได้รับการยอมรับว่าเป็นผู้ที่มีฝีมืออันดับต้นของวงการนี้ จึงทำให้ช่อง 7 วางใจว่าจะผลิตภาพยนตร์เชิงสารคดี “ช้างไทย" ให้เป็นที่รู้จักอย่างแพร่หลายและสามารถสร้างชื่อเสียงให้กับประเทศไทยได้
ด้านนายสมบุญ ชีวสุทธานนท์ กรรมการผู้จัดการ MATCH เปิดเผยว่า บริษัท แม็ทชิ่ง สตูดิโอ พลัส จำกัด ประกอบธุรกิจผลิตภาพยนต์โฆษณาและให้บริการกับกองถ่ายทำภาพยนต์ต่างประเทศ ผลิตภาพยนตร์เชิงสารคดีช้างไทย ซึ่งเป็นสารคดีที่ต้องการสื่อให้คนไทยและต่างชาติได้ตระหนักถึงความสำคัญและคุณค่าของช้างไทย โดยบริษัทฯ จะเริ่มรับรู้รายได้จากการผลิตสารคดีดังกล่าวได้ตั้งแต่ไตรมาส 4/56 นี้
“แม็ทชิ่ง แม็กซิไมซ์ โซลูชั่นฯ เรามีดีตั้งหลายอย่าง เราสามารถผลิตคอนเท้นต์ได้หลายรูปแบบ การรับงานผลิตภาพยนตร์เชิงสารคดีในครั้งนี้ ถือเป็น Document ซึ่งสร้างโอกาสในการรับจ้างผลิตรายการที่มีคุณภาพอื่นๆ อีก รองรับผู้ประกอบการที่ยื่นประมูลทีวีดิจิตอลในอนาคต เพราะเราคือผู้ผลิตอิสระและเป็นตัวเลือกที่น่าสนใจ สามารถรับงานผลิตจากผู้ประกอบการได้ทุกราย และครั้งนี้ถือเป็นการนำร่องช่วยต่อยอดธุรกิจของ MATCH ให้เติบโตอย่างต่อเนื่อง ฉะนั้นจึงมั่นใจว่ารายได้ในปีนี้จะทำได้ตามเป้าหมายที่ 700 ล้านบาท หรือเติบโต 20% จากปีก่อน"
ด้านนายฐนิสสพงศ์ ศศินมานพ กรรมการ บริษัท แม็ทชิ่ง สตูดิโอ พลัส จำกัด กล่าวเสริมว่าภาพยนตร์เชิงสารคดีช้างไทย มีจำนวน 8 เรื่อง ประกอบด้วย จ้าวเถื่อน ,ทองอินทร์ ครูช้าง,ความลับของช้าง,ซุปตาร์ช้าง,ช้างกลับบ้าน, หมอช้าง,ช้างป่า และวัฏจักรคน วัฏจักรช้าง สำหรับการถ่ายทำสารคดีในครั้งนี้จะเป็นระบบภาพคมชัดสูง(High Definition) โดยจะเริ่มเปิดกล้องถ่ายทำเรื่องแรกคือจ้าวเถื่อน ในปลายเดือนตุลาคม 2556
"การนำเสนอเรื่องราวทั้งหมดมีพื้นฐานข้อมูลจากเรื่องจริงที่เกิดขึ้น ตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบันในมุมมองของธรรมชาติ ประวัติศาสตร์ วัฒนธรรมและวิถีชีวิตปัจจุบัน ผ่าน 8 เรื่อง 8 มุมมอง โดยผู้กำกับ 6 คน ที่มีแนวคิด มีความรู้และมีความรักต่อช้าง ซึ่งทีมงานหวังว่าผลงานชุดนี้จะช่วยกระตุ้นให้เกิดกระแสการอนุรักษ์ภูมิปัญญาต่อยอดองค์ความรู้และนำไปสู่การร่วมกันแก้ไขปัญหาของช้างไทยอย่างยั่งยืน" นายฐนิสสพงศ์ กล่าว