ทั้งนี้ จากแผนการดำเนินงานดังกล่าว ทำให้บริษัทเร่งเดินหน้าเข้าประมูลงานต่างประเทศอย่างต่อเนื่อง โดยในไตรมาส 4/56 บริษัทเตรียมยื่นประมูลโครงการผลิตน้ำทะเลเป็นน้ำจืด ในประเทศอินโดนีเซีย มูลค่าประมาณ 300 ล้านบาท และคาดว่าจะรู้ผลการประมูลประมาณในครึ่งปีแรกของปี 57 นอกจากนี้ภายในปี 57 บริษัทจะมีการเซ็นสัญญาบันทึกความเข้าใจ (MOU) เพื่อก่อสร้างระบบผลิตไฟฟ้าพลังน้ำ จำนวน 20 เมกะวัตต์ในประเทศลาว
ด้านโครงการระบบบำบัดน้ำเสียของนิคมอุตสาหกรรมมัณฑะเลย์ของพม่า ที่ก่อนหน้านี้บริษัทได้มีการเซ็น MOU ไปแล้วนั้น ในส่วนของขั้นตอนการทำงานขณะนี้ความคืบหน้าไปมากแล้ว คาดว่าเร็วๆ นี้จะได้ข้อสรุป โครงการดังกล่าวจะอยู่ในรูปแบบการลงทุนและบริหารโครงการ (Build, Operate and Transfer: BOT) งบลงทุนจำนวน 360 ล้านบาท ระยะเวลาสัญญา 30 ปี
“บริษัทมีบุคลากรที่มีประสบการณ์ ความเชี่ยวชาญ และเทคโนโลยีที่ทันสมัย รวมถึงมีการบริการแบบครบวงจร ตั้งแต่การออกแบบ จัดหา ก่อสร้าง ติดตั้งและเดินระบบที่เน้นคุณภาพระดับสากล ทำให้บริษัทมั่นใจว่าจะก้าวขึ้นสู่บริษัทชั้นนำในระดับภูมิภาคอาเซียนได้อย่างแน่นอน ขณะที่แผนการเข้าประมูลงานต่างประเทศบริษัทจะเน้นหนักที่ประเทศพม่า เนื่องจากมีความต้องการอย่างมากทั้งในย่างกุ้ง มัณฑะเลย์ และเนปิดอร์ โดยโครงการที่บริษัทจะเข้าประมูลจะมีทั้งโครงการออกแบบ ก่อสร้าง และจัดหาอุปกรณ์แบบครบวงจร (EPC) และโครงการลงทุน (BOO หรือ BOT) ที่บริษัทจะเป็นผู้ลงทุนและผลิตน้ำหรือบำบัดน้ำเสียให้กับผู้ว่าจ้าง" นายสลิบ กล่าว
ทั้งนี้ บริษัทตั้งเป้าหมายรายได้ระยะยาว (57-60) จะมีอัตราการเติบโตที่ต่อเนื่องเฉลี่ยไม่ต่ำกว่า 20% จากงานทั้งในประเทศและต่างประเทศ