(เพิ่มเติม) ภาวะตลาดหุ้นไทย: แนวโน้มดัชนีเช้านี้แกว่งแคบ รอความชัดเจนการพิจารณางบฯของสหรัฐฯ

"วันนี้ก็อยู่ในรูปของการ Side way ซึ่งต้องรอดูว่าสหรัฐฯจะสามารถสรุปการประชุมเกี่ยวกับงบฯ และเพดานหนี้ได้ทันก่อนเที่ยงวันนี้หรือไม่ ซึ่งถ้าหากสรุปได้ทันดัชนีตลาดหุ้นไทยก็มีโอกาสที่จะขึ้นไปทดสอบที่ 1,400-1,410 จุด"

สำหรับตลาดหุ้นในภูมิภาคปรับตัวอยู่ทั้งในแดนลบ และ แดนบวก

พร้อมให้แนวรับ 1,375 จุด และ แนวต้าน 1,400 จุด

ประเด็นของการพิจารณาการลงทุน :

• ตลาดหุ้นนิวยอร์คเมื่อวานนี้(30 ก.ย.)ดัชนีดาวโจนส์ ปิดที่ 15,129.67 จุด ลดลง 128.57 จุด(-0.84%) ดัชนีเอสแอนด์พี 500 ปิดที่ 1,681.55 จุด ลดลง 10.20 จุด(-0.60%) และดัชนีแนสแด็ก ปิดที่ 3,771.48 จุด ลดลง 10.11 จุด(-0.27%)
• ตลาดหุ้นเอเชียเปิดเช้านี้ ดัชนี NIKKEI 225 ตลาดหุ้นญี่ปุ่นเปิดวันนี้ เพิ่มขึ้น 62.18 จุด, ดัชนี TAIEX ตลาดหุ้นไต้หวันเปิดวันนี้ เพิ่มขึ้น 0.12 จุด, ดัชนี KOSPI ตลาดหุ้นเกาหลีใต้เปิดวันนี้ เพิ่มขึ้น 0.66 จุด, ดัชนี FTSE STI ตลาดหุ้นสิงคโปร์เปิดวันนี้ เพิ่มขึ้น 12.85 จุด, ดัชนี FBMKLCI ตลาดหุ้นมาเลเซียเปิดวันนี้ ลดลง 2.25 จุด และดัชนี S&P/ASX 200 ตลาดหุ้นออสเตรเลียเปิดวันนี้ ลดลง 0.80 จุด

ส่วนตลาดหุ้นจีน และตลาดหุ้นฮ่องกงปิดทำการวันนี้ เนื่องในวันหยุดเฉลิมฉลองวันชาติ

• ตลาดหุ้นไทยปิดเมื่อวานนี้(30 ก.ย.)ที่ 1,383.16 จุด ลดลง 34.33 จุด(-2.42%)
• นักลงทุนต่างชาติขายสุทธิ 1,664.05 ล้านบาท เมื่อ 30 ก.ย.56
• ราคาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือน พ.ย.ในตลาดไนเม็กซ์ปิดทำการวานนี้(30 ก.ย.)ที่ 102.33 ดอลลาร์/บาร์เรล ลดลง 0.54 ดอลลาร์ฯ
• ค่าการกลั่นอ้างอิงตลาดสิงคโปร์ปิดวานนี้(30 ก.ย.)ที่ 3.93 เหรียญฯ/บาร์เรล
• เงินบาทเปิด 31.22/24 คาดผันผวนแรง ตลาดลุ้นกม.งบประมาณฉุกเฉินสหรัฐ
• ธปท.เผยเศรษฐกิจเดือนส.ค.ทรงตัวดุลบัญชีเดินสะพัดเกินดุลครั้งแรกรอบ 3 เดือน เตรียมหั่นจีดีพีจาก 4.2% เผยเงินไหลออก 4.6 พันล้านดอลล์ เชื่อยังไม่ไหลกลับเข้าไทย ส่วนดัชนีเชื่อมั่นธุรกิจต่ำสุดรอบ20เดือน ขณะสภาผู้ส่งออกทางเรือ หั่นเป้าส่งออกเหลือ 2.5%
• ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) รายงานดุลเงินทุนเคลื่อนย้ายล่าสุดในเดือน ส.ค.ที่ผ่านมา พบว่ามีเงินทุนไหลออกสุทธิ 4,612 ล้านเหรียญสหรัฐ หรือประมาณ 1.45 แสนล้านบาท (อัตราแลกเปลี่ยน 31.40 บาทต่อเหรียญสหรัฐ) เพิ่มขึ้นมากจากเดือนก่อนหน้าที่มีเงินไหลออกเพียง 764 ล้านเหรียญสหรัฐ หรือ 2.39 หมื่นล้านบาท
• ก๊าซหุงต้ม (แอลพีจี) ภาคครัวเรือน จะปรับราคาขึ้นอีก 50 สตางค์/กิโลกรัม (สต./กก.) เป็นเดือนที่สองวันที่ 1 ต.ค. ส่งผลให้ราคาขายปลีกก๊าซหุงต้มเป็น 19.13 บาท/กก. โดยขนาดถังครัวเรือน (15 กก.) จะมีราคาถังละ 289.50 บาทเพิ่มขึ้น 7.50 บาท จากเดือนก่อนหน้า
• ลดภาษีฟุ่มเฟือยเป็นหมัน "กิตติรัตน์"เคาะแล้ว รัฐบาลไม่มีโครงการลดภาษีฟุ่มเฟือยเพื่อหนุนชอปปิ้งพาราไดซ์อย่างแน่นอน แนะผู้ประกอบการในประเทศปรับตัว ออกไปแข่งขันในตลาดโลก ผอ.สศค.เด้งรับ ยกเลิกแผนหารือผู้ประกอบการ
• ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ในวันที่ 1 ต.ค.นี้ นายกิตติรัตน์ ณ ระนอง รองนายกรัฐมนตรีและ รมว.คลัง จะเสนอให้ครม.พิจารณาอนุมัติร่างประกาศกระทรวงการคลัง เพื่อลดอัตราอากรและยกเว้นอากรศุลกากร มาตรา 12 แห่ง พ.ร.ก.พิกัดอัตราภาษีศุลกากร พ.ศ. 2530 ฉบับที่... ในส่วนของภาษีนำเข้าแก่ผู้นำเข้าสินค้าระดับมาตรฐานเออีโอ (Authorized Economic Operator : AEO) ลงเหลือ 5% ของอัตราที่เรียกเก็บทั่วไป
• แหล่งข่าวจากกระทรวงการคลัง เปิดเผยว่า ในการประชุมคณะรัฐมนตรี(ครม.)วันที่ 1 ต.ค.นี้ กระทรวงการคลังจะเสนอให้ ครม.เร่งรัดให้กระทรวงคมนาคมเร่งศึกษาปรับปรุงแนวทางการสนับสนุนการลดค่าครองชีพให้ประชาชนด้านการเดินทาง เพื่อให้เกิดประโยชน์กับประชาชนอย่างแท้จริง หลังพบว่าเงินอุดหนุนค่าใช้จ่ายรถเมล์ฟรีและรถไฟฟรีติดต่อกันมา 12 ระยะ ใช้เงินไปกว่า 1.44 หมื่นล้านบาท

*หุ้นเด่นวันนี้

• SAMART (เคเคเทรด)"ซื้อ"เป้า 27 บาท บริษัทระบุว่าการลงนามกับ TOT เป็นผู้ให้บริการ MVNO จำนวน 2.8 ล้านเลขหมายจะเซ็นสัญญาได้ในสัปดาห์นี้ ซึ่งรวมประเด็น MVNO สัญญาใหม่ในประมาณการ SIM แล้ว และคาดว่าปีนี้ SIM จะมีสัดส่วนรายได้บริการ MVNO เพิ่มขึ้นเป็น 4% จาก 2% ในปี 2555 ขณะที่ในส่วนการประมูลทีวีดิจิทัลร่วมกับสยามสปอร์ต จะมีการจัดตั้งบริษัทร่วมกันชื่อ ไอ-สปอร์ต มีเดีย และเตรียมวางตลาดกล่องรับสัญญาณ (Set Top Box) ล็อตแรก 3-4 แสนกล่อง ราคาขายไม่เกิน 1,000 บาท ประเมินกำไรสุทธิใน 2H56 ไว้ที่ 656 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 28% YoY และใกล้เคียงครึ่งปีแรก
• DELTA (เคเคเทรด)"ซื้อเก็งกำไร"เป้า 51 บาท แนวโน้มผลประกอบการใน 2H56 ยังคงมีโมเมนตัมที่ดีต่อเนื่อง จากการรับรู้รายได้สินค้ากลุ่ม Data Center โมเดลใหม่ และสินค้ากลุ่ม Auto มากขึ้นจากการทยอยส่งมอบสินค้าให้กับลูกค้า ทั้งนี้ คาดว่าใน 3Q56 จะเป็นไตรมาสดีสุดของปี โดยจะมีจากปัจจัยบวกจากยอดขายที่โตต่อเนื่อง และ Gross Margin ที่ดีขึ้นจาก ตามยอดขายกลุ่ม Margin สูงที่มีสัดส่วนเพิ่มขึ้น โดยเฉพาะกลุ่ม Telecom Power, Solar และ Auto
• KBANK(เมย์แบงก์ กิมเอ็ง)"ซื้อเก็งกำไร"เป้า 228 บาท ยังคงมุมมองเชิงบวกในระยะกลาง-ยาว และคาดว่ากำไรสุทธิ 3Q56 จะยังมีทิศทางขยายตัว +18% yoy เป็น 1.09 หมื่นล้านบาท จากสินเชื่อ 3Q56 ที่เติบโต +2.9% qoq จากแรงหนุนของสินเชื่อภาคธุรกิจที่ปรับตัวขึ้นโดดเด่นตั้งแต่ เดือน ส.ค.ที่ผ่านมา ขณะที่ส่วนต่างอัตราดอกเบี้ย (NIM) คาดว่าจะทรงตัว qoq และ NPL ยังอยู่ในระดับต่ำเพียง 2.0% ยังคงประมาณการกำไรปี 2556 ที่ 40,967 ล้านบาท หรือ เติบโต +16.2% yoy ราคาหุ้นปรับตัวลงถึง -11.2% ในช่วง 2 สัปดาห์ที่ผ่านมา จึงคาดว่าราคาหุ้นจะมีแนวโน้มดีดกลับได้เร็วกว่าตลาด หลังเช้านี้สภาล่างของสหรัฐฯ โหวตผ่านแผนงบประมาณชั่วคราวแล้วพร้อมด้วยเงื่อนไขเลื่อน Obamacare ออกไป 1 ปี
• TOP(เมย์แบงก์ กิมเอ็ง)"ซื้อเก็งกำไร"เป้า 62 บาท คาดว่าราคาหุ้นกลุ่มพลังงานมีโอกาสรีบาวน์ได้ตามทิศทางราคาน้ำมันดิบ NYMEX ที่คาดว่าจะไต่ระดับขึ้น หลังเช้านี้สภาล่างของสหรัฐฯ โหวตผ่านแผนงบประมาณชั่วคราวแล้ว พร้อมด้วยเงื่อนไขเลื่อน Obamacare ออกไป 1 ปี และคาดว่าผลประกอบการ 3Q56 จะโดดเด่นสุดในกลุ่มโรงกลั่น
• RML(ฟินันเซีย ไซรัส)ปรับเป้าไปใช้ปี 2014 ที่ 2.30 บาท อิง PE 8 เท่า ลดลงจากเป้าหมายปีนี้ที่ 2.60 บาทที่ใช้ PE 13 เท่าเพื่อความระมัดระวังมากขึ้น แต่ยังคงแนะ"ซื้อ"เพราะคาดกำไรปกติปี 2014 โตสูงถึง 66% Y-Y หลังปรับกำไรปีหน้าขึ้น 9% เพราะคาดว่าโครงการ 185 ราชดำริจะโอนได้เร็วกว่าที่คาดไว้เดิม