การซื้อขายหุ้นช่วงเช้าวันนี้ ดัชนีหุ้นไทยเคลื่อนไหวในแดนบวกเป็นส่วนใหญ่ โดยแตะจุดสูงสุดของช่วงเช้าที่ 1,401.46 จุด และแตะจุดต่ำสุดของช่วงเช้าที่ระดับ 1,381.88 จุด
นายธนเดช รังษีธนานนท์ ผู้อำนวยการฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.กรุงศรี กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยในช่วงเช้านี้ส่วนใหญ่แกว่งตัวในแดนบวกหลังจากที่ได้ปรับตัวลงไปมากเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา เช่นเดียวกับตลาดหุ้นอื่นในภูมิภาคเอเชียที่ส่วนใหญ่เคลื่อนไหวในแดนบวก โดยคาดว่าจะเป็นการเกิดเทคนิคเคิลรีบาวด์ จากแรงซื้อหุ้นในบางกลุ่มที่น่าสนใจเพื่อการลงทุนระยะกลาง-ระยะยาว หลังจากราคาลงไปมากแล้ว
ขณะที่ปัจจัยเสี่ยงจากต่างประเทศ โดยเฉพาะสหรัฐที่ไม่สามารถตกลงกันได้ในเรื่องของงบประมาณรายจ่าย ส่งผลให้หน่วยงานภาครัฐบางแห่งต้องถูกปิดลงชั่วคราว มองว่าปัจจัยดังกล่าวไม่ได้ส่งผลกระทบโดยตรงต่อปัจจัยพื้นฐานของไทย แต่อาจจะเป็นในเชิง sentiment ที่ทำให้ดัชนีมีการแกว่งตัว
"ตามที่เห็นในข่าวคือสหรัฐฯยังตกลงกันไม่ได้ จึงต้องมีการปิดหน่วยงานบางหน่วยงานลง ซึ่งมีความคาดหวังว่าจะต้องมีการพูดคุยกัน แต่ก็ยังสะท้อนให้เห็นถึงปัญหาทางการเมืองในเชิงของนโยบาย และความอ่อนแอฐานะทางการคลัง หุ้นจึงมีความผันผวน แต่เนื่องจากว่าหุ้นได้ปรับตัวลงแรงเมื่อสัปดาห์ก่อน ปัจจัยดังกล่าวจึงไม่ใช่ปัจจัยที่ส่งผลกระทบมาโดยตรงต่อปัจจัยพื้นฐานของประเทศ แต่อาจจะเป็นผลในเชิง sentiment ที่จะทำให้ดัชนีในช่วงเช้าและช่วงบ่ายมีการแกว่งตัวได้"นายธนเดช กล่าว
แนวโน้มการลงทุนในช่วงบ่ายนี้ นายธนเดช กล่าวว่า ดัชนีตลาดหุ้นไทยน่าจะแกว่งตัวทั้งในแดนบวกและแดนลบ ประกอบกับ เริ่มเข้าสู่ช่วงทยอยประกาศผลประกอบการในไตรมาส 3/56 โดยหุ้นกลุ่มแบงค์และกลุ่มพลังงาน น่าจะมีการประกาศตัวเลขออกมาดี พร้อมให้ติดตามตลาดหุ้นในแถบยุโรป พร้อมให้กรอบแนวรับ 1,365 จุด และแนวต้าน 1,400 จุด
ส่วนหลักทรัพย์ที่มีมูลค่าการซื้อขายสูงสุด 5 หลักทรัพย์ ได้แก่
CSS มูลค่าการซื้อขาย 1,748.13 ล้านบาท ปิดที่ 3.58 บาท เพิ่มขึ้น 0.28 บาท
TRUE มูลค่าการซื้อขาย 996.22 ล้านบาท ปิดที่ 8.00 บาท เพิ่มขึ้น 0.25 บาท
INTUCH มูลค่าการซื้อขาย 778.65 ล้านบาท ปิดที่ 83.25 บาท เพิ่มขึ้น 0.75 บาท
KTB มูลค่าการซื้อขาย 756.85 ล้านบาท ปิดที่ 19.50 บาท เพิ่มขึ้น 0.30 บาท SCB มูลค่าการซื้อขาย 726.72 ล้านบาท ปิดที่ 151.00 บาท เพิ่มขึ้น 3.00 บาท