สัปดาห์หน้ามองว่าตลาดยังผันผวนค่อนข้างสูง ซึ่งต้องติดตามเรื่องการนำร่างพ.ร.บ.กู้เงิน 2 ล้านล้านบาทเข้า พิจารณาในชั้นวุฒิสภาวันที่ 7 ต.ค.นี้ รวมทั้งประเด็นของสหรัฐ หากยังยืดเยื้อจะเกิดความวิตกมีผลกระทบต่อเศรษฐกิจของสหรัฐ กลายเป็นประเด็นกดดันตลาดหุ้นทั่วโลก รวมถึงไทยด้วย
แม้ว่าประเด็นการประกาศผลประกอบการไตรมาส 3/56 ของบริษัทจดทะเบียนจะเป็นปัจจัยบวกในตลาด แต่ให้น้ำหนัก เรื่องการเมืองในประเทศและประเด็นความเสี่ยงของสหรัฐจะเป็นตัวกดดันมากกว่า มองแนวต้านที่ 988, 995 จุด หากมีสถานะ long ให้ทยอยปิดขายทำกำไร และรอเปิด short โดยให้แนวรับที่ 963, 950 จุด
ส่วนราคาทองคำช่วงนี้ได้รับแรงหนุนจากปัจจัยเสี่ยงของสหรัฐและน่าจะทำให้ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐอ่อนตัวลงได้เป็นแรง หนุนให้ราคาทองคำปรับตัวขึ้นไปต่อได้ ขณะเดียวกันจับตาอุปสงค์ของจีน ที่สัปดาห์หน้าจะกลับมาเปิดทำการ หลังสัปดาห์นี้หยุดไปเนื่อง จากวันชาติ
แนวโน้มสัปดาห์หน้าคาดมีรีบาวด์ อาจดีดตัวขึ้นไปทดสอบที่ระดับ 1,330-1,350 เหรียญ/ออนซ์ ซึ่งสัปดาห์นี้ยังไม่ สามารถผ่านไปได้ แต่หากผ่านได้แล้วให้มองแนวต้านถัดไปที่ระดับ 1,375 เหรียญ/ออนซ์ แนวรับให้ไว้ที่ 1,300, 1,280 เหรียญ/ ออนซ์
สำหรับ Gold Futures สัปดาห์หน้าให้แนวต้านที่ 19,880, 20,000 บาท แนวรับที่ 19,400, 19,200 บาท
ดัชนี SET 50 ปิดวันนี้ที่ระดับ 973.12 จุด ลดลง 1.54 จุด, -0.16%
ปริมาณ สถานะคงค้าง Total Market 49,655 385,340 Total Futures 49,549 383,382 Brent Crude Oil 94 289 Metal 4,925 14,953 - 50 Baht Gold 821 5,581 - 10 Baht Gold 4,104 9,357 - Silver - 15 USD 661 5,362 Interest Rate - - SET50 Index 13,785 29,749 Sector Index Futures - - Single Stock 30,084 333,029 Total Options 106 1,958 SET50 Index 106 1,958 Call 41 931 Put 65 1,027 สรุปปริมาณการซื้อขายตามกลุ่มผู้ลงทุน นักลงทุนสถาบัน นักลงทุนต่างชาติ นักลงทุนภายในประเทศ Futures -11,180 +565 +10,615 Options +8 +6 -14