แม้ว่าสัดส่วนรายได้จากสินค้าปลาดอร์รี่ในปัจจุบันจะไม่ถึง 1% ของรายได้รวม CPF แต่บริษัทได้ตั้งเป้าเพิ่มสัดส่วนรายได้เป็น 3% ภายใน 5 ปีข้างหน้า (56-60) โดยปัจจุบัน ซีพี เวียดนาม ส่งออกปลาดอร์รี่ ไปยังอังกฤษ เดนมาร์ก เยอรมนี สหรัฐ ออสเตรเลีย จีน ฮ่องกง สิงคโปร์ และไทย นอกจากนี้ยังอยู่ระหว่างการศึกษาการเจาะตลาดในตะวันออกกลางและยุโรปตะวันตก และได้มองแนวโน้มตลาดในประเทศจีนเป๊นตลาดที่มีศักยภาพในการเติบโตในอนาคต
"ตลาดจีนในการส่งออกปลาดอร์รี่ เป็นตลาดที่ใหญ่และมีโอกาสมากในอนาคต เพราะจีนมีจำนวนประชากรกว่า 1.3 พันล้านคน ปริมาณการนำเข้าปลาดอร์รี่ในปีนี้ก็เยอะพอสมควรราว 1,200 ตัน และคนจีนเริ่มนิยมหันมาบริโภคโปรตีนจากสัตว์น้ำ โดยเฉพาะปลาเนื้อขาวเพิ่มขึ้น เราคาดว่าภายใน 2-3 ปี จำนวนการส่งออกปลาดอร์รี่ไปประเทศจีนจะเพิ่มเป็น 10,000 ตัน"นายพิสิฐ กล่าว
สำหรับตลาดไทย บริษัทคาดว่าจะมีปริมาณนำเข้าปลาดอร์รี่อยู่ที่ 2,800 ตันในปีนี้ หรือเพิ่มขึ้น 107% จากปี 55 และตั้งเป้าปริมาณการนำเข้าปีหน้าเป็น 6,500 ตัน หรือเพิ่มขึ้น 132% เนื่องจากแนวโน้มการบริโภคปลาดอร์รี่ในประเทศไทยเริ่มได้รับความนิยมมากขึ้น
นายพิสิฐ กล่าวอีกว่า บริษัทได้มีการศึกษาแหล่งเลี้ยงปลาดอร์รี่ในพื้นที่อื่นๆเพิ่มเติม เช่น พม่า และกัมพูชา แต่เนื่องจากพื้นที่ดังกล่าวสามารถเลี้ยงปลาดอร์รี่ได้ไม่ดีเท่ากับเวียดนามที่สามารถเลี้ยงได้ในทุกฤดู ทำให้ยังไม่มีการตัดสินใจเข้าไปลงทุนเพิ่มในขณะนี้