ในพิธีปล่อยแท่น ZPQ ฯพณฯ อู เซ ยา อ่อง รมว.พลังงานของสหภาพเมียนมาร์ กล่าวว่า ขอแสดงความชื่นชมกับ ปตท.สผ. ซึ่งเป็นผู้ดำเนินการโครงการซอติก้า ที่ได้แสดงความสามารถและความเป็นมืออาชีพในการปฏิบัติงานควบคู่ไปกับความผิดชอบต่อสังคมในประเทศที่เข้าไปปฏิบัติงาน ก๊าซธรรมชาติจากโครงการนี้มีความสำคัญมาก เพราะช่วยตอบสนองความต้องการใช้พลังงาน รวมทั้งการพัฒนาประเทศของสหภาพเมียนมาร์ได้เป็นอย่างดี
อนึ่ง ปตท.สผ. คาดว่าจะเริ่มการผลิตก๊าซธรรมชาติครั้งแรกจากโครงการซอติก้าได้ในปลายปี 2556 โดยจะสามารถผลิตก๊าซฯ ได้ในอัตรา 345 ล้านลูกบาศก์ฟุตต่อวัน
นายณอคุณ สิทธิพงศ์ ประธานคณะกรรมการ PTTEP กล่าวว่า โครงการซอติก้า เป็นโครงการที่มีความสำคัญยิ่ง ไม่เพียงแต่เป็นการพัฒนาแหล่งก๊าซธรรมชาติครั้งใหญ่ที่สุดแห่งหนึ่งของเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ แต่ยังเป็นโครงการที่จะเพิ่มกำลังการผลิตก๊าซฯ ให้ทันต่อการเติบโตของเศรษฐกิจในภูมิภาคนี้ รวมถึง ตอบสนองความต้องการใช้พลังงานของประเทศไทยและเมียนมาร์ที่เพิ่มขึ้นสูงอีกด้วย
นายเทวินทร์ วงศ์วานิช เจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ PTTEP กล่าวว่า ปตท.สผ.มีความภาคภูมิใจกับแท่น ZPQ ซึ่งนับได้ว่าเป็นแท่นผลิตที่ใหญ่ที่สุดแท่นหนึ่งในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ และภูมิใจกับโครงการซอติก้าซึ่งเป็นโครงการผลิตก๊าซธรรมชาตินอกชายฝั่งที่ใหญ่ที่สุดของ ปตท.สผ. ที่ดำเนินการด้วยตนเองในต่างประเทศ แท่น ZPQ เป็นแท่นที่มีเทคโนโลยีทันสมัย มีอุปกรณ์การผลิตที่มีมาตรฐานด้านความปลอดภัย อาชีวอนามัย และสิ่งแวดล้อมระดับสูงสุดเท่าที่ใช้กันในอุตสาหกรรมสำรวจและผลิตปิโตรเลียม นอกจากนั้น แท่น ZPQ ยังเป็นแท่นที่มีระยะเวลาออกแบบและก่อสร้างที่เร็วที่สุดเมื่อเทียบกับแท่นที่มีขนาดเดียวกันอีกด้วย
แท่น ZPQ เป็นแท่นที่ผสมผสานแท่นผลิตก๊าซฯ (Natural Gas Processing Facilities) และแท่นที่พักอาศัย (Living Quarters) ไว้เป็นแท่นเดียว โดยตัวแท่นมีน้ำหนัก 16,500 ตัน ใช้ระยะเวลาในการออกแบบและก่อสร้างจนแล้วเสร็จเพียง 28 เดือน และปราศจากอุบัติเหตุร้ายแรงจากการปฏิบัติงาน (Lost Time Incident) เป็นเวลา 9,500,000 ชั่วโมง