นายอธึก อัศวานนท์ รองประธานกรรมการ TRUE กล่าวในที่ประชุมผู้ถือหุ้นว่า ที่ประชุมได้ลงมติเสียงข้างมาก ในการอนุมัติให้บริษัทและ/หรือ บริษัทย่อย เข้าทำธุรกรรมกองทุนรวมโครงสร้างพื้นฐาน ขนาดประมาณ 6 - 8 หมื่นล้านบาท
ขณะที่นายศุภชัย เจียรวนนท์ กรรมการผู้จัดการใหญ่และประธานคณะผู้บริหาร TRUE กล่าวว่า เดิมบริษัทจะนำเสาโทรคมนาคมเข้ากองทุนรวมโครงสร้างพื้นฐาน จำนวน 12,000 ต้น แต่เนื่องจากในจำนวนดังกล่าวมีเสาประมาณ 7,000 ต้นที่เป็นของทรูมูฟและอยู่ระหว่างการเจรจาข้อพิพาทกับ กสท.โทรคมนาคม จึงได้ตัดส่วนนี้ออกไปก่อน ทำให้เหลือจำนวนเสาโทรคมนาคม 5,000 ต้น ขายเข้ากองทุนฯในขั้นต้น
อย่างไรก็ดี บริษัทเห็นว่ามีโอกาสที่เจรจาประนีประนอมกับ กสท.โทรคมนาคม ไม่เช่นนั้นหากต่อสู้ในศาลคงต้องใช้เวลาถึง 7-8 ปี และไม่มีฝ่ายใดได้ประโยชน์ นอกจากนี้ บริษัทจะสร้างเสาโทรคมนาคมอีก 6,000 ต้นบนคลื่นความถี่ 2.1GHz ที่จะขายเข้ากองทุนเพื่อสร้างมูลค่าเพิ่ม
"เป็นความตั้งใจว่าหลังจากจัดตั้งกองทุนรวมโครงสร้างพื้นฐาน (IFF) เรามีความพยายามขายสินทรัพย์เข้า IFF เฟส 2 เฟส 3 ซึ่งเราพยายามเจรจาประนีประนอมกัน แทนที่จะต่อสู้กันทางศาลต่างคนก็ไม่ได้ประโยชน์"นายศุภชัย กล่าว
ด้านนายนพปฎล เดชอุดม หัวหน้าคณะผู้บริหารด้านการเงิน TRUE กล่าวว่า รู้สึกเสียดายและเสียใจที่ไม่ได้นำในส่วนเสาของทรูมูฟทั้งหมดขายเข้ากองทุน แต่เพื่อความรอบคอบในการจัดตั้งกองทุน จึงยังไม่นับรวมเสาที่เป็นข้อพิพาท แต่ก็ทำให้มูลค่ากองทุนน้อยลง ทำให้แผนจะคืนหนี้ได้ทั้งหมดกลับทำไม่ได้ทันที