สำหรับ พันธบัตรรัฐบาล รุ่นที่นิยมซื้อขายสูงสุดในวันนี้คือ พันธบัตรรุ่น LB176A, LB155A และ LB196A (รุ่นอายุ 3.7 ปี, 1.6 ปี และ 5.7 ปี ตามลำดับ) โดยมีมูลค่าการซื้อขายรวมกัน 5,884 ล้านบาท หรือคิดเป็น 59% ของมูลค่าการซื้อขายพันธบัตรรัฐบาลทั้งหมด ทางด้าน หุ้นกู้เอกชน รุ่นที่นิยมซื้อขายสูงสุด 3 อันดับแรกในวันนี้ คือ
1. หุ้นกู้มีประกันของบริษัท โกลว์ พลังงาน จำกัด (มหาชน) (GLOW218A) มูลค่า 174.3 ล้านบาท
2. หุ้นกู้ของธนาคารเกียรตินาคิน จำกัด (มหาชน) (KK165A) มูลค่า 100.7 ล้านบาท
3. หุ้นกู้ของบริษัท ทรู คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน)(TRUE177A) มูลค่า 34.1 ล้านบาท
โดยมีมูลค่าการซื้อขายรวมกัน 309.1 ล้านบาท หรือคิดเป็น 62.5% ของมูลค่าการซื้อขายหุ้นกู้เอกชนทั้งหมดในวันนี้
ทางด้านประเภทของนักลงทุน ที่มีมูลค่าการซื้อขายสูงที่สุดเป็น 2 อันดับแรกในวันนี้ คือ
1. กลุ่มบริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน (บลจ.) มียอดซื้อสุทธิ เท่ากับ 10,095 ล้านบาท
2. กลุ่มบริษัทจดทะเบียนในประเทศ มียอดซื้อสุทธิ เท่ากับ 8,619 ล้านบาท
ในขณะที่นักลงทุนต่างชาติ มียอดซื้อสุทธิ เท่ากับ 1,961 ล้านบาท
ผลตอบแทนของพันธบัตรรัฐบาลอายุ 3 เดือน ปิดที่ 2.53% ปรับตัวลดลงจากเมื่อวาน -0.01% และผลตอบแทนของพันธบัตรรัฐบาลอายุ 5 ปี ปิดที่ 3.53% ไม่มีการเปลี่ยนแปลงจากเมื่อวาน
Yield Curve ค่อนข้างนิ่ง โดยปรับลดลงเล็กน้อยประมาณ 1 bp. ปริมาณการซื้อขายค่อนข้างเบาบาง นักลงทุนยังคงจับตาปัญหางบประมาณรายจ่าย และเพดานหนี้สาธารณะของสหรัฐฯ ที่ยังไม่ได้ข้อสรุปที่ชัดเจน ซึ่งส่งผลต่อ Global Sentiment ในเชิงลบ สำหรับนักลงทุนต่างชาติ มียอดซื้อสุทธิ (NET BUY) เท่ากับ 1,961 ล้านบาท