ทั้งนี้ บริษัทตั้งเป้ายอดขายโครงการดังกล่าวภายในสิ้นปีนี้ถึงปลายปีหน้าราว 40% และคาดว่าจะสามารถเริ่มโอนได้ในช่วงต้นปี 58
"เราไม่ได้เน้นขายทีเดียวทั้งหมด ซึ่งจะค่อยๆทยอยขายมากกว่า มองว่ากว่าจะสร้างเสร็จก็ใช้เวลา 1 ปี และใช้เวลา 1 ปีครึ่ง ที่จะขายได้หมด โดยโครงการคอนโดมีเนียม S9 ก็จะเปิดพรีเซลวันที่ 12 ต.ค.นี้ ก็เจาะกลุ่ม VIP พนักงานต่างๆที่ทราบข่าว" นายกิตติพล กล่าว
การที่บริษัทปรับกลยุทธ์หันมาบุกตลาดที่อยู่อาศัยแนวสูงก็เพื่อรองรับความต้องการของผู้บริโภคในตัวสินค้าประเภทคอนโดมิเนียมที่เติบโตเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะโครงการที่อยู่ทำเลรายล้อมเส้นทางรถไฟฟ้า นอกจากนี้ การเข้าสู่ประชาคมอาเซียนในอีกไม่ถึง 3 ปี ยังเป็นปัจจัยสนับสนุนการเติบโตของคอนโดมิเนียมให้สูงขึ้น เพราะมีการเคลื่อนย้ายแรงงานจากต่างประเทศเข้ามา ความต้องการที่อยู่อาศัยจึงเพิ่มสูงขึ้นตาม
นายกิตติพล เปิดเผยว่า บริษัทตั้งเป้ารายได้ปีนี้ 1,200-1,300 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปีก่อนที่มีรายได้ 950 ล้านบาท โดยรายได้หลักมาจากยอดขายบ้านเดี่ยว 7 โครงการ
ส่วนกำไรสุทธิคาดว่าจะทำได้เกิน 100 ล้านบาท เพิ่มขึ้นมากจากปีก่อนที่มีกำไร 44 ล้านบาท เป็นการเพิ่มขึ้นตามยอดขายบ้านเดี่ยวและการขายที่ดินเปล่ามูลค่าราว 120 ล้านบาท ซึ่งได้กำไรสูงประมาณ 80% ขณะที่คาดว่าอัตรากำไรสุทธิในปีนี้จะอยู่ที่ระดับ 10% ทั้งนี้ บริษัทมียอดขายรอโอน(Backlog)ทั้งสิ้น 200 ล้านบาท โดยจะรับรู้เป็นรายได้ภายในปีนี้ทั้งหมด
สำหรับแผนงานในปี 57 บริษัทยังคงเน้นพัฒนาโครงการแนวราบ ซึ่งจะมีการซื้อที่ดินเพิ่มในฝั่งภาคตะวันออกและภาคตะวันตกใกล้แนวรถไฟฟ้า โดยเตรียมงบลงทุนราว 250 ล้านบาท และจะเปิดโครงการใหม่ทั้งโครงการทาวน์โฮมและบ้านเดี่ยวอีก 2-3 โครงการ จากปีนี้เปิดโครงการใหม่ทั้งสิ้น 2 โครงการ แบ่งเป็นบ้านเดี่ยวมูลค่าโครงการ 700 ล้านบาท และคอนโดมิเนียม S9
"ในการดำเนินงานในปีนี้และปีต่อไปสิ่งที่เป็นกังวล คือในเรื่องของแรงงานขาดแคลน ที่อาจจะทำให้การก่อสร้างโครงการของบริษัทมีความล่าช้าออกไปได้"นายกิตติพล กล่าว
ขณะที่ธุรกิจศูนย์การค้าคอมมูนิตี้มอลล์ 3 โครงการที่เปิดให้บริการไปแล้วนั้น ในปีนี้จะมีรายได้เข้ามาเต็มที่ทั้งปีราว 120-140 ล้านบาท ซึ่งขณะนี้บริษัทยังหาทำเลในพื้นที่ต่างจังหวัดเพื่อขยายศูนย์การค้าเพิ่มเพิ่มใน จ.ขอนแก่น โดยใช้งบลงทุนก่อสร้างราว 350 ล้านบาท