นายสุทธิ รจิตรังสรรค์ ประธานกรรมการ บมจ.ไทยรีประกันชีวิต (THREL) กล่าวว่า บริษัทมั่นใจว่ารายได้จากเบี้ยประกันในปีนี้จะเติบโต 20% จากปีปี 55 ที่ 1.14 พันล้านบาท โดยครึ่งปีแรกเติบโตมากกว่า 20% และตั้งเป้าการเติบโตของรายได้เบี้ยประกันเฉลี่ย 20% ในช่วง 3 ปี (56-58) ขณะที่คาดว่ากำไรสุทธิจะเติบโตตามรายได้
อย่างไรก็ตาม บริษัทมองโอกาสในการหาตลาดใหม่ๆในอาเซียน เมื่อมีการเปิดประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน(AEC) ในการรับประกันรับประกันชีวิตจากต่างชาติจากการรับทำประกันส่วนเกินส่งต่อของตบริษัทประกันต่างชาติ
“โอกาสใน AEC เราก็มองหาโอกาสใหม่ๆในตลาดอาเซียนจากการรับประกันส่วนเกินจากต่างชาติ ที่ส่วนนึงมาจากการที่เค้าอาจจะรีประกันกับเราก็ได้ อย่างเช่น การแบ่งส่วนประกัน 2 ล้านบาท มาแบ่งที่เรา 1 ล้านบาท แบบนี้เราก็สามารถทำได้"นายสุทธิ กล่าว
นายพิเชษฐ์ สิทธิอำนวย กรรมการผู้อำนวยการ บล.บัวหลวง(BLS) ในฐานะที่ปรึกษาทางการเงิน และผู้จัดการการจัดจำหน่ายและรับประกันการจำหน่ายหุ้น THREL กล่าวว่า ราคาหุ้น THREL ในวันแรกของการซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์วันแรกเป็นราคาที่เหมาะสมและเป็นไปตามพื้นฐานของบริษัทที่ถือว่ามีความแข็งแกร่งมาก โดยมีรายได้เข้ามาอย่างต่อเนื่อง และแนวโน้มเติบโตอยู่ในทิศทางที่ดี โดยราคาของหุ้นธุรกิจประกันชิวิตจะไม่หวือหวามาก ราคาค่อยๆไต่ระดับขึ้นไปตามการเติบโตของธุรกิจ
พร้อมมองราคาที่เหมาะสมในช่วง 12 เดือนข้างหน้าของหุ้น THREL อยู่ที่ 13.20 บาท
"ราคาเทรดวันแรกของ THREL ก็อยู่ในระดับที่เหมาะสม ซึ่งบางคนอาจจะมองว่าราคายังไม่หวือหวา แต่ก็เป็นธรรมชาติของธุรกิจประกันภัยที่ราคาหุ้นจะค่อยๆขยับขึ้นไปอย่างต่อเนื่อง โดยทางบล.บัวหลวงได้มีการประเมินราคาเป้าหมาย 12 เดือนข้างหน้าไว้ที่ 13.20 บาท ซึ่งถ้านับจากราคาตรงนี้ก็ยังถือว่ามีการ Upside "นายพิเชษฐ กล่าว
สำหรับหุ้น IPO ที่ BLS รับเป็นที่ปรึกษาทางการเงินในช่วงที่เหลือของปี 56 ยังมีบริษัทที่รอการขายหุ้น IPO และเข้าเทรดอีก 2 ราย โดยเป็นหุ้นในกลุ่มธุรกิจอาหารทะเลและธุรกิจชิ้นส่วนยานยนต์ และมองตลาด IPO ในปี 57 ยังมีแนวโน้มที่ดี แต่ไม่หวือหวาอย่างเช่น 1-2 ปีที่ผ่านมา เนื่องจากนักลงทุนเริ่มมีการมองพื้นฐานของหุ้นที่แท้จริงและมีความเข้าใจมากขึ้น
"IPO ที่เหลือของปีนี้ยังมีอีก 2 ตัว ที่จะขายและรอเข้าเทรด เข้า SET 1 ตัว ส่วนอีกตัวผมจำไมได้นะว่าเข้าอะไร ส่วนตลาด IPO ในปีหน้าก็ยังโอเค แต่หวือหวาแหมือน 1-2 ปีที่ผ่านมา เพราะตอนนี้นักลงทุนมองพื้นฐานของหุ้นจริงๆ และเริ่มมีความเข้าใจมากขึ้น จากก่อนหน้านี้ที่บูมมากเกินโอเว่อร์พื้นฐานไป สำหรับการตั้งราคา IPO ส่วนใหย๋ก็ยังมองว่าเหมาะสมนะ เห็ยขายทุกครั้งก็ขายหมด แสดงถึงว่านักลงทุนสามารถยอมรับราคาได้"นายพิเชษฐ์ กล่าว