(เพิ่มเติม) SCC คาดสเปรดปิโตรฯปีนี้สูงกว่าปีก่อน,น้ำท่วมกระทบยอดขาย ก.ย.-ต.ค.

ข่าวหุ้น-การเงิน Wednesday October 9, 2013 15:19 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นายชลณัฐ ญาณารณพ กรรมการผู้จัดการใหญ่ เอสซีจีเคมิคออล์ บมจ.ปูนซิเมนต์ไทย(SCC) คาดว่าส่วนต่างราคาผลิตภัณฑ์(สเปรด)ในกลุ่มปิโตรเคมีในปี 56 จะอยู่ที่เฉลี่ย 550-600 เหรียญสหรัฐ/ตัน สูงกว่าปีก่อนที่อยู่ในระดับกว่า 400 เหรียญสหรัฐ/ตัน โดยในช่วงไตรมาส 3/56 สเปรดได้ปรับตัวเพิ่มขึ้นมาอยู่ที่ 600 เหรียญสหรัฐ/ตัน ซึ่งสูงกว่าช่วงไตรมาส 2/56 ราว 30-40 เหรียญสหรัฐ
"สเปรดในไตรมาส 3 ปรับขึ้นมาจากไตรมาส 2 ประมาณ 30-40 เหรียญ/ตัน มาจากราคาน้ำมันลง ทำให้แนฟทาปรับลดลง ก็เป็นไปตามที่เราคาด"นายชลณัฐ กล่าว

ส่วนในไตรมาส 4/56 เป็นไตรมาสที่มีผลประกอบการต่ำอยู่แล้ว เนื่องจากดีมานด์ลดลง ไม่ค่อยสั่งซื้อเพราะใกล้สิ้นปี แต่ก็คาดว่าสเปรดไม่ลดลงมาก นอกจากนี้มีการปิดซ่อมบำรุงโรงงาน 45 วัน

นายชลณัฐ กล่าวว่า ปีนี้สเปรดขึ้นมาสูงกว่าปีที่แล้วซึ่งเป็นจุดต่ำสุด โดยคาดเฉลี่ยที่ 550-600 เหรียญ/ตัน จากปีก่อนที่สเปรดเฉลี่ย 400 เหรียญ/ตัน เนื่องจากปีนี้มีความต้องการสูงขึ้น และคาดว่าความต้องการค่อยๆทยอยดีขึ้นในปีหน้า โดย สหรัฐ ยุโรปมีภาวะเศรษฐกิจดีขึ้น ญี่ปุ่นก็ดีขึ้นชัดเจน ส่วนจีนเศรษฐกิจชะลอตัวมานานแล้ว ด้านซัพพลายใหม่คาดว่าปีหน้าจะเข้ามาใกล้เคียงปีนี้ที่ 5-6 ล้านตัน

ด้านนายกานต์ ตระกูลฮุน กรรมการผู้จัดการใหญ่ SCC กล่าวว่า สถานการณ์น้ำท่วมในหลายจังหวัดขณะนี้ส่งผลกระทบต่อยอดขายปูนซิเมนต์และวัสดุก่อสร้างในช่วงเดือน ก.ย.-ต.ค.56 แต่เชื่อว่าภาพรวมยอดขายทั้งปีคงจะได้รับผลกระทบไม่มากนัก

"คาดว่าน้ำท่วมกระทบยอดขายไตรมาส 3 เล็กน้อย และไตรมาส 4 และอาจกระทบยอดขายรวมบ้าง แต่ก็มองว่าหลังน้ำท่วมก็มียอดใช้เพิ่มขึ้นในม.ค.-ก.พ.ปีหน้า" นายกานต์ กล่าว

ส่วนการร่วมทุนโครงการปิโตรเคมีคอมเพล็กซ์ในเวียดนาม ขณะนี้มีการพิจารณาปรับสัดส่วนโครงสร้างการถือหุ้นในกลุ่มพันธมิตรร่วมทุน โดยคาดว่าจะได้ข้อสรุปราวปลายปีนี้หรือต้นปีหน้า จากปัจจุบันกำหนดเบื้องต้น SCC ถือหุ้นใหญ่ 46% ปิโตรเคมีเวียดนาม 29% และกาตาร์ อินเตอร์เนชั่นแนล 25% จากนั้นคาดว่าปลายไตรมาส 3/57 จะมีข้อสรุปเกี่ยวกับมูลค่าเงินลงทุนของโครงการทั้งหมด และการกู้เงินจากสถาบันการเงิน ซึ่งขณะนี้มีธนาคารจากญี่ปุ่นสนใจที่จะให้กู้แล้ว

นายกานต์ กล่าวว่า ขณะนี้บริษัทได้ประกาศเชิญชวนผู้รับเหมาโครงการเข้ามาเสนองาน จากนั้นก็จะสามาถรู้ต้นทุนหรือเงินลงทุนโครงการที่แท้จริง จากเดิมตั้งวงเงินลงทุน 4,500 ล้านเหรียญสหรัฐ คาดว่าจะใช้เงินกู้ซินดิเคทโลนจากกลุ่มธนาคารญี่ป่นที่ติดต่อไว้แล้ว 4 แห่ง ได้แก่ ธนาคารสุมิตโตโมมิตซุย ธนาคารโตเกียวมิตซุย ธนาคารมิตซูโฮ ธนาคารญี่ปุ่นเพื่อความร่วมมือระหว่างประเทศ (JBIC) รวมทั้ง Export Credit Agency (ECA) ซึ่งมีสถาบันการเงินญี่ปุ่นและเกาหลีให้การสนับสนุน

โครงการดังกล่าวยังอยู่ระหว่างการพิจารณานำเข้าเครื่องจักรทั้งจากญี่ปุ่นและเกาหลี ซึ่งจะช่วยให้โครงการนี้ได้รับการสนับสุนนทางการเงินทั้งธนาคารจากญีปุ่นและเกาหลี ซึ่งโครงการปิโตรคอมเพล็กซ์เวียดนาม มีธนาคารสุมิตโตโมมิตซุยเป็นที่ปรึกษาทางการเงิน คาดจะสร้างแล้วเสร็จในปี 61 กำลังการผลิต 1 ล้านตัน ผลิตภัณฑ์หลัก ได้แก่ PP.PE,VCM ตั้งอยู่เมืองลองเซิ่น จังหวัดดารีฟุงเต่า ทางใต้ของเวียดนาม บนพื้นที่กว่า 400 เฮกตาร์


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ