นอกจากนี้ภายในงานจะมีการเปิดตัวแทปเล็ตและสมาร์โฟนรุ่นล่าสุดกว่า 200 รุ่น รวมถึงผู้ประกอบการบางรายยังมีการนำโน๊ตบุ๊คกว่า 50,000 เครื่องรวมถึงสินค้าไอทีอื่น ๆ มาจัดจำหน่ายในราคาพิเศษ เพื่อช่วยกระตุ้นตลาดไอทีที่ซบเซามาตั่งแต่ต้นปีให้กลับมาคึกคักอีกครั้งในไตรมาสสุดท้ายของปี
"การจัดงานคอมมาร์ต ในครั้งนี้ เราจะเน้นในส่วนของโมบายออนไลน์ มากขึ้น ซึ่งต้องยอมรับว่ากระแสยังคงมุ่งมาทางเทคโนโลยีส่วนนี้ แต่เรายังคงไม่ทิ้งในส่วนของโน๊ตบุ๊ค เนื่องจากหลายค่ายไม่ว่าจะเป็น อินเทล หรือ ไมโครซอฟ ก็ได้มีการปรับตัวที่จะนำเทคโนโลยีเข้าไปใส่ในแทปเล็ตและสมาร์ทโฟน โดยในงานคอมมาร์ตก็จะมีโปรโมชั่นต่างๆเข้ามา" นายพรชัย กล่าว
นายพรชัย กล่าวว่า ช่วงที่ผ่านมาสัดส่วนของตลาดคอมพิวเตอร์และโน๊ตบุ๊คอยู่ในเกณฑ์ที่ทรงตัว ในขณะที่แทปเล๊ต และสมาร์ทโฟน มียอดขายเพิ่มสูงขึ้น เนื่องจากผู้ประกอบการมีการแข่งขันด้านการออกแบบดีไซน์ ฟังค์ชั่น และฮาร์ดแวร์ ของสินค้า ที่รุนแรงมากขึ้น แต่อย่างไรก็ตาม มองว่าคอมพิวเตอร์และโน๊ตบุ๊คยังคงเป็นที่ต้องการ เนื่องจากสามารถใช้งานได้มีประสิทธิภาพมากกว่า แทปเล๊ตและสมาร์ทโฟนที่ตอบสนองเฉพาะความบันเทิง
พร้อมกันนี้มองว่า ในไตรมาสที่ 4 ภาพรวมของตลาดไอทีจะกลับมาฟื้นตัวอีกครั้งนึง หลังจากที่ชะลอตัวลงในช่วงที่ผ่านมาเพราะผู้บริโภคใช้จ่ายไปกับโครงการรถคันแรกและบ้านหลังแรก ประกอบกับผู้ประกอบการจะมีการทำโปรโมชั่นสำหรับส่งเสริมการขาย เพื่อดึงดูดผู้บริโภค และจะส่งผลให้ ไตรมาสที่ 1/57 มีการแข่งขันเพิ่มมากขึ้น
นายพรชัย กล่าวว่า ในปีนี้บริษัทยังคงเป้าหมายรายได้ทั้งปีเติบโต 15-20% เนื่องจากตลาดไอทีในไตรมาส 1-3 ที่ผ่านมาอยู่ในช่วงขาลง แต่เชื่อว่าในไตรมาส 4 จะได้รับอานิสงค์จากงานคอมมาร์ต คอมเทค ไทยแลนด์ 2013 ประกอบกับในช่วงที่เหลือของปีบริษัทจะได้รับงานใหม่เข้ามา ซึ่งเป็นงานเกี่ยวกับการศึกษา อีกทั้งบริษัทได้รับการติดต่อให้รับงานในส่วนของคอนเทนท์ จากผู้ที่ยื่นซองเข้าประมูลจำนวน 5-6 ราย หากมีการประมูลผ่าน บริษัทก็พร้อมที่จะเริ่มงานได้ทันที