Market capitalization ของ SET และ mai ณ สิ้นไตรมาส 3/56 ปรับตามทิศทางดัชนีตลาดหลักทรัพย์ โดยของ SET อยู่ที่ 12,079,564 ล้านบาท และของ mai อยู่ที่ 171,420 ล้านบาท ลดลงจากสิ้นไตรมาสก่อนที่ 3.59% และ 1.56% ตามลำดับ แต่เพิ่มขึ้นจากเดือนก่อนหน้าที่ 7.02% และ 12% ตามลำดับ
Forward P/E ratio ของ SET อยู่ที่ 13.78 เท่า เพิ่มขึ้นจาก 12.73 เท่าในเดือนก่อนหน้า และสูงกว่าค่าเฉลี่ยของภูมิภาคเล็กน้อยที่ 13.41 เท่า สำหรับ mai อยู่ที่ 17.01 เท่า เพิ่มขึ้นจาก 15.82 เท่าในเดือนก่อนหน้า
อัตราเงินปันผลตอบแทนของ SET อยู่ที่ 3.17% สูงกว่าค่าเฉลี่ยของภูมิภาคที่ 3.14% สำหรับ mai อยู่ที่ 1.69%
มูลค่าการซื้อขายเฉลี่ยต่อวันรวมของ SET และ mai ไตรมาส 3/56 อยู่ที่ 44,139 ล้านบาท ลดลง 24.65% จากไตรมาสก่อน ส่วนในเดือนกันยายน 2556 มูลค่าการซื้อขายเฉลี่ยต่อวันรวมของ SET และ mai อยู่ที่ 46,471 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 16.17% จากเดือนก่อนหน้า
ผู้ลงทุนทุกกลุ่มมีมูลค่าการซื้อขายเฉลี่ยต่อวันลดลงจากไตรมาสก่อน อย่างไรก็ตาม ในช่วง 9 เดือนแรกของปี 2556 ผู้ลงทุนทุกกลุ่มมีมูลค่าการซื้อขายเฉลี่ยต่อวันเพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันของปีก่อน
ผู้ลงทุนต่างประเทศขายสุทธิใน SET และ mai ต่อเนื่องจากไตรมาสที่ผ่านมาที่ 29,962 ล้านบาท ส่งผลให้ในช่วง 9 เดือนแรกของปี 2556 ผู้ลงทุนต่างประเทศขายสุทธิ 106,408 ล้านบาท ส่วนในเดือนกันยายน 2556 พบว่าผู้ลงทุนต่างประเทศกลับมาเป็นผู้ซื้อสุทธิที่ 9,429 ล้านบาท หลังจากขายสุทธิในเดือนก่อนหน้า
ด้านการระดมทุน บริษัทจดทะเบียนใน SET และ mai มีการระดมทุนรวม 36,369 ล้านบาท ส่วนใหญ่เป็นการระดมทุนในตลาดแรก (IPO) 26,180 ล้านบาท จากการเข้าจดทะเบียนของบริษัทขนาดกลางและกองทุนรวมโครงสร้างพื้นฐาน สำหรับในช่วง 9 เดือนแรกของปี 2556 มีมูลค่าการระดมทุนสะสมทั้งสิ้น 212,609 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 162.11% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน
"ในไตรมาส 3/56 ตลาดทุนไทยได้รับผลกระทบจากการไหลออกของเงินทุนเคลื่อนย้าย ภายใต้การฟื้นตัวของเศรษฐกิจสำคัญที่เริ่มชัดเจน เศรษฐกิจสหรัฐอเมริกามีความเป็นไปได้ที่จะฟื้นตัวทำให้มุมมองการกำหนดนโยบายการเงินของธนาคารกลางสหรัฐอเมริกาอาจปรับลดวงเงินที่ใช้บริหารสภาพคล่องในระบบ เศรษฐกิจญี่ปุ่นมีแนวโน้มดีขึ้น ขณะที่เศรษฐกิจจีนกลับขยายตัวในอัตราลดลง ยุโรปมีการชะลอตัว ส่วนอินเดียและอินโดนีเซียมีความเสี่ยงสูงขึ้นที่จะเกิดภาวะเงินเฟ้อ รวมถึงไทยที่เศรษฐกิจขยายตัวต่ำกว่าที่คาดการณ์ ส่งผลให้เกิดการเคลื่อนย้ายเงินทุนในตลาดทุนทั่วโลก โดยเฉพาะในประเทศตลาดเกิดใหม่ (emerging market) ที่เติบโตสูง เช่น ไทย อินโดนีเซีย และฟิลิปปินส์"
ด้านตลาดสัญญาซื้อขายล่วงหน้า (TFEX) ไตรมาส 3/56 มีปริมาณสัญญาซื้อขายเฉลี่ยต่อวัน 58,190 สัญญา ลดลง 27.51% จากไตรมาสก่อนหน้า ช่วง 9 เดือนแรกของปี 2556 TFEX มีปริมาณสัญญาซื้อขายเฉลี่ยต่อวัน 71,648 สัญญา เพิ่มขึ้น 62.18% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน ที่สำคัญจากการเพิ่มขึ้นของ Single Stock Futures
สำหรับในเดือนกันยายน 2556 TFEX มีปริมาณสัญญาซื้อขายเฉลี่ยต่อวัน 65,748 สัญญา เพิ่มขึ้น 21.61% จากเดือนก่อนหน้า เนื่องจาก Single Stock Futures มีปริมาณสัญญาซื้อขายเฉลี่ยต่อวันเพิ่มขึ้น 47.40% จากเดือนก่อนหน้า มาอยู่ที่ 29,100 สัญญา
ในไตรมาส 3/56 มีการซื้อขาย Commodity Futures ประกอบด้วย 50 Baht Gold Futures 10 Baht Gold Futures Silver Futures และ Oil Futures ในช่วง Night Session อยู่ที่ 44.42% ของปริมาณการซื้อขายรวม ลดลงจาก 45.03% ในไตรมาสก่อน และในช่วง 9 เดือนแรกของปี 2556 อยู่ที่ 49.63% ของปริมาณการซื้อขายรวม ลดลงจาก 52.89% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน