โดยแบ่งเป็นยอดขายโครงการที่อยู่อาศัยในช่วงไตรมาสแรก มูลค่ารวมกว่า 21,000 ล้านบาท และยอดขายในช่วงไตรมาสสอง 8,000 ล้านบาท รวมทั้งยอดขายในช่วงไตรมาสสาม ที่บริษัทสามารถปิดการขายได้อีก 8,000 ล้านบาท
บริษัทยังคงครองยอดขายโครงการที่อยู่อาศัยต่าง ๆ ที่อยู่ระหว่างรอรับรู้รายได้(Presale backlog)ในอีก 5 ปีข้างหน้าสูงถึงประมาณ 65,457 ล้านบาทแล้ว นับเป็นยอดขายล่วงหน้าที่สูงที่สุดในระบบธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ในประเทศไทยในขณะนี้เช่นเดียวกัน รวมทั้งยังนับเป็นยอดรอรับรู้รายได้ที่สูงที่สุดที่บริษัทเคยทำได้ตั้งแต่ดำเนินธุรกิจ
สำหรับแผนการดำเนินธุรกิจในช่วงไตรมาส 4/56 บริษัทจะมีการเปิดตัวโครงการที่อยู่อาศัยใหม่ อีกประมาณ 7 โครงการ มูลค่ารวมกว่า 8,700 ล้านบาท แบ่งเป็นโครงการคอนโดมิเนียม 4 โครงการมูลค่ารวมประมาณ 5,700 ล้านบาท โครงการบ้านเดี่ยว 2 โครงการ มูลค่ารวมประมาณ 2,200 ล้านบาท รวมทั้งการพัฒนาทาวน์เฮาส์อีก 1 โครงการ มูลค่ารวม 800 ล้านบาท โดยบริษัทตั้งเป้ายอดขายในช่วงไตรมาสสุดท้ายไว้ประมาณ 11,000 ล้านบาท
นอกจากนี้ บริษัทได้วางแผนพัฒนาธุรกิจในตลาดต่างจังหวัดอย่างต่อเนื่อง โดยได้เตรียมเปิดตัว“ดีคอนโด ฮาย"ซึ่งนับเป็นการพัฒนาโครงการที่อยู่อาศัยในจังหวัดเชียงรายเป็นครั้งแรก รวมทั้งแผนการพัฒนาที่อยู่อาศัยในแนวราบ ซึ่งนับเป็นการพัฒนา บ้านเดี่ยวโครงการแรกที่จังหวัดเชียงใหม่ ภายใต้แบรนด์เศรษฐสิริ ในชื่อโครงการ“เศรษฐสิริ สันทราย"หลังจากที่ผ่านมาบริษัทประสบความสำเร็จกับการพัฒนาคอนโดมิเนียมในโครงการ ดีคอนโด แคมปัส รีสอร์ทและดีเวียง สันติธรรม จังหวัดเชียงใหม่มาแล้ว โดยได้เตรียมเปิดการขายทั้ง 2 โครงการใหม่ในช่วงต้นเดือนพฤศจิกายนนี้