บริษัทร่วมทุนนี้ มีวัตถุประสงค์การจัดตั้งรองรับการขยายตัวของตลาดซึ่งเชื่อว่าจะขยายตัวอย่างมากภายหลังจากเปิดประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน (AEC) ในปี 58 รวมทั้งลูกค้าในประเทศ โดยเฉพาะลูกค้าญีปุ่นที่อยู่ในประเทศไทย ทำให้มีโอกาสขยายงานวิศวกรรมงานระบบไปสู่กลุ่มลูกค้าชาวญี่ปุ่นและขยายฐานไปสู่ประเทศอื่นๆใน AEC โดยในช่วงแรกจะเริ่มรุกตลาดในประเทศไทยก่อน
"การจัดตั้งบริษัทร่วมทุนครั้งนี้ เป็นการนำจุดแข็งของทั้งสองบริษัทมาผนึกกำลังเพื่อเพิ่มศักยภาพของบริษัทก้าวสู่มาตรฐานสากล อีกทั้งในการขยายฐานลูกค้าญีปุ่นในประเทศไทย พร้อมเพิ่มมูลค่าแก่ผู้ถือหุ้น ทำให้เราเชื่อว่าการลงทุนในครั้งนี้จะทำให้องค์กรสามารถเติบโตอย่างมีนัยสำคัญ และเป็นการสร้างโอกาสทางธูรกิจให้ EMC เพื่อรองรับการเปิด AEC ในอนาคตอีกด้วย" นายชนะชัย กล่าว
นายชนะชัย กล่าวว่า บริษัทได้ตั้งเป้าการรับงานในปีแรกของบริษัทร่วมทุนดังกล่าว จำนวน 320 ล้านบาท หรือ 1 พันล้านเยน โดยเป็นงานเกี่ยวกับวิศวกรรมระบบ คาดว่าจะเริ่มทำงานได้หลังจดทะเบียนเรียบร้อยภายในสิ้นปีนี้ ซึ่งปัจจุบัน SANKEN-EMC อยู่ระหว่างเจรจางานปรับปรุงระบบปรับอากาศภายในท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ และงานก่อสร้างตึกขนาดใหญ่ 2 งานของภาคราชการ
"บริษัทร่วมทุนจะเน้นการรับงานที่ใช้เทคโนโลยีสูง โดยในปีแรกเราตั้งเป้าที่รับงาน 320 ล้านบาทเกี่ยวกับงานระบบ ในส่วนของ Green Building และ Clean room ที่ปัจจุบันมีความต้องการที่เพิ่มมากขึ้น โดยเฉพาะภาคอุตสาหกรรมที่มีการขยายตัวอย่างต่อเนื่อง และมองโอกาสไปถึงกลุ่มงานระบบในโรงพยาบาล ที่รัฐบาลตั้งเป้าให้ประเทศไทยเป็นฮับ ใน AEC ทำให้มองเห็นถึงดีมานด์ที่เกิดขึ้นในอนาคต งานที่บริ่ษัทร่วมทุนเป็นงานที่มีมาร์จิ้นมากกว่า 2 เท่าของงานวิศวกรรมโยธา และ SANKEN เป็นผู้เชี่ยวชาญทางด้านเทคโนโลยี และมี Know How เป็นของตัวเอง ทำใหลูกค้ามีความเชื่อมั่น" นายชนะชัย กล่าว
นอกจากนี้ บริษัทร่วมทุน เล็งที่จะขยายธุรกิจเข้าไปในพม่า เพราะมองเห็นแนวโน้มการเติบโตอย่างมาก เป็นโอกาสเข้ารับงานใหม่ ซึงปัจจุบันอุตสาหกรรมในพม่าเติบโตเพื่อเตรียมความพร้อมเข้าสู่ AEC
สำหรับการดำเนินธูรกิจของ EMC นั้น นายชนะชัย กล่าวว่า ปัจจุบันบริษัทมีงานในมือ (Backlog) ประมาณ 2 พันล้านบาท โดยจะรับรู้รายได้ส่วนใหญ่ในปี 57 หลังจากรับรู้บางส่วนภายในปีนี้ นอกจากนี้ บริษัทยังได้ยื่นประมูลงานภาครัฐและเอกชน ในสัดส่วน 50:50 รวมมูลค่าประมาณ 2- 2.5 พันล้านบาท จากจำนวน 4-5 งาน คาดว่างานบางส่วนจะรู้ผลประมูลภายในปีนี้