นายซานเจย์ ซิงห์ ประธานกรรมการบริหาร กลุ่มธุรกิจอาหาร E เปิดเผยว่า การร่วมเป็นพันธมิตรในครั้งนี้ เอฟโวลูชั่นจะถือหุ้น 80% ในขณะที่เคียวโซนถือหุ้น 20 % ซึ่งเป็นการได้ลิขสัทธิ์ ร้านไก่ทอดเคียวโซนในประเทศไทย ลาว และกัมพูชา โดยคาดว่าจะมีการขยายสาขาในประเทศไทยได้ในปีนี้จำนวน 1 แห่ง และตั้งเป้าขยายสาขารวมทั้งหมดเป็น 15 สาขาในปี 57 โดยตั้งงบลงทุนไว้ 50-60 ล้านบาท ทั้งนี้คาดว่าจะมียอดขายราว 70-75 ล้านบาท
ขณะเดียวกันตั้งเป้าหมายในอีก 4 ปีข้างหน้าจะมีสาขาทั้งหมด 40 สาขา อย่างไรก็ตามบริษัทฯจะมีการขยายสาขาแบบ แฟรนไชส์ไปพร้อมๆกันด้วย ซึ่งปัจจุบันได้มีสาขาแบบแฟรนไชส์แล้ว 2 สาขา คือที่ แฟชั่น ไอส์แลนด์ และ สุขุมวิท ซอย 12
“การที่เรานำแบรนด์ไก่ทอดมานั้น เนื่องจากมองเห็นศักยภาพการเติบโต และเป็นไก่ที่แตกต่างอย่างสิ้นเชิงกับ เจ้าตลาดในปัจจุบัน และด้วยความนิยมในเกาหลีที่เป็นไก่ทอดอันดับ 1 และมองว่าผลิตภัณฑ์แบรนด์เคียวโชนมีความเหมาะสมของตลาดเมืองไทย ทั้งในด้านรสชาติแบบเอเชียและวัฒนธรรมเกาหลีที่ได้รับความนิยมอย่างมากในเมืองไทย"นายซานเจย์ กล่าว
นอกจากนี้ กิจการในส่วนของอาหารและเครื่องดื่มของบริษัทฯยังได้มีการเติบโตอย่างรวดเร็ว โดยปัจจุบันได้มีการขยายสาขาของเดอะคอฟฟี่บีนแอนด์ทีลีฟไปแล้วกว่า 12 สาขา และในสิ้นปี 56 จะมีสาขาทั้งหมด 15สาขา และยังตั้งเป้าหมายปี 59 จะมีทั้งหมด 60 สาขา
สำหรับร้านโดมิโน่ พิซซ่า ปัจจุบันมีสาขาทั้งหมดอยู่ 7 สาขา และคาดว่าในช่วงสิ้นปี 56 จะมีทั้งหมด 10-15 สาขา ในขณะเดียวกันตั้งเป้าหมายในปี 59 จะมีทั้งหมด 50 สาขา
จากที่บริษัทฯได้มีการนำแบรนด์อาหารต่างๆ เข้ามาร่วมเป็นพันธมิตรนั้น เพราะบริษัทฯมีเป้าหมายที่จะไปขยายสาขาของแบรนด์อาหารต่างๆ ไปขยายสาขาในประเทศเพื่อนบ้าน ซึ่งปัจจุบันอยู่ระหว่างการศึกษาในประเทศ พม่า ลาว และ กัมพูชา ซึ่งคาดว่าในปี 57-58 นี้จะเริ่มเข้าไปบุกตลาดในประเทศเหล่านี้
“เรามองเห็นศักยภาพของประเทศต่างๆ ที่เริ่มมีการขยายตัวอย่างต่อเนื่อง ประกอบกับประเทศไทยเป็นศูนย์กลางที่สามารถติดต่อกับหลายๆประเทศได้ เราจึงได้ริเริ่มนำแบรนด์อาหารต่างๆเข้ามาเป็นลิขสิทธิ์ของเรา เพื่อที่จะขยายไปยังประเทศเพื่อนบ้านต่างๆในอนาคต"นายซานเจย์
ด้านนายมาร์ค ไรเนค ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร E เปิดเผยว่า ในปีนี้บริษัทฯจะมีโรงแรม Tune Hotels ทั้งหมด 25 แห่งโดยปัจจุบัน ก่อสร้างเสร็จสิ้นแล้ว 14 แห่ง และอีก 11 แห่งอยู่ระหว่างก่อสร้างซึ่งจะสามารถก่อสร้างแล้วเสร็จในช่วงปลายปี ทั้งนี้ คาดว่าในปี 58 จะมีโรงแรมในเครือทั้งหมด 50 แห่ง ในขณะเดียวกันจะก่อสร้างในปี 58 อีก 30 แห่ง โดยโรงแรมจะอยู่ใน 6 ประเทศ คือ ประเทศไทย ใต้หวัน อินโดนีเซีย ฟิลิปปินส์ ญี่ปุ่น และ ฮ่องกง
“เรายังมีการขยายโรงแรมอย่างต่อเนื่อง เพราะเรายังเห็นโอกาสในการเติบโตได้อยู่ สำหรับประเทศไทยเองเราก็ยังเห็นศักยภาพการเติบโตตามเมืองใหญ่ๆ เช่น กรุงเทพฯ ภูเก็ตและหาดใหญ่ ถึงแม้ว่าปัจจุบัน อาจจะมีการแข่งขันเพิ่มขึ้น แต่สำหรับโรงแรมขนาด 600-700 ห้อง ยังมีไม่มาก และการลงทุนในธุรกิจโรงแรมเอง ก็ยังน้อยอยู่ เราจึงยังมองธุรกิจนี้จะยังมีโอกาสในการเติบโตได้อีกมาก" นายมาร์ค กล่าว