สำหรับ พันธบัตรรัฐบาล รุ่นที่นิยมซื้อขายสูงสุดในวันนี้คือ พันธบัตรรุ่น LB176A, LB21DA และ LB196A (รุ่นอายุ 3.7 ปี, 8.2 ปี และ 5.7 ปี ตามลำดับ) โดยมีมูลค่าการซื้อขายรวมกัน 6,274 ล้านบาท หรือคิดเป็น 66% ของมูลค่าการซื้อขายพันธบัตรรัฐบาลทั้งหมด ทางด้าน หุ้นกู้เอกชน รุ่นที่นิยมซื้อขายสูงสุด 3 อันดับแรกในวันนี้ คือ
1. หุ้นกู้บริษัท เจริญโภคภัณฑ์อาหาร จำกัด (มหาชน) (CPF14NA) มูลค่า 205.9 ล้านบาท
2. หุ้นกู้ของบริษัท ไออาร์พีซี จำกัด (มหาชน) (IRPC147A) มูลค่า 102.7 ล้านบาท
3. หุ้นกู้ไม่ด้อยสิทธิ และไม่มีประกันของบริษัท แลนด์ แอนด์ เฮ้าส์ จำกัด (มหาชน) (LH149A) มูลค่า 73.8 ล้านบาท
โดยมีมูลค่าการซื้อขายรวมกัน 382.4 ล้านบาท หรือคิดเป็น 38.8% ของมูลค่าการซื้อขายหุ้นกู้เอกชนทั้งหมดในวันนี้
ทางด้านประเภทของนักลงทุน ที่มีมูลค่าการซื้อขายสูงที่สุดเป็น 2 อันดับแรกในวันนี้ คือ
1. กลุ่มบริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน (บลจ.) มียอดซื้อสุทธิ เท่ากับ 5,489 ล้านบาท
2. กลุ่มบริษัทจดทะเบียนในประเทศ มียอดซื้อสุทธิ เท่ากับ 16,666 ล้านบาท
ในขณะที่นักลงทุนต่างชาติ มียอดขายสุทธิ เท่ากับ -406 ล้านบาท
ผลตอบแทนของพันธบัตรรัฐบาลอายุ 3 เดือน ปิดที่ 2.54% ไม่มีการเปลี่ยนแปลงจากเมื่อวาน และผลตอบแทนของพันธบัตรรัฐบาลอายุ 5 ปี ปิดที่ 3.53% ไม่มีการเปลี่ยนแปลงจากเมื่อวาน
Yield Curve แกว่งตัวในกรอบแคบๆ ประมาณ 1 bp. ล่าสุดสหรัฐฯ เปิดเผยตัวเลขผู้ขอรับสวัสดิการว่างงาน ซึ่งปรับเพิ่มขึ้นถึง 66,000 ราย มาอยู่ที่ 374,000 ราย ซึ่งเป็นระดับที่สูงกว่าที่คาดไว้ เนื่องจากได้รับผลกระทบจาก Government Shutdown ด้านนักลงทุนยังคงติดตามประเด็นปัญหางบประมาณรายจ่าย และเพดานหนี้สาธารณะของสหรัฐฯ โดยตลาดคาดว่าน่าที่จะได้ข้อยุติเร็วๆนี้ สำหรับนักลงทุนต่างชาติ มียอดขายสุทธิ (NET SELL) เท่ากับ 406 ล้านบาท