AEC เผยมีบิ๊กดีลในมือรวมกว่า 1 แสนลบ.ภายใน 3 ปี เดินหน้ารุกสู่อาเซียน

ข่าวหุ้น-การเงิน Monday October 14, 2013 10:27 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นายประพล มิลินทจินดา ประธานกรรมการบริหาร บล.เออีซี(AEC) เปิดเผยว่า เป้าหมายของ บล.เออีซี คือการก้าวสู่ความเป็นผู้นำในระดับภูมิภาคอาเซียน บริษัทจึงมีแผนที่จะพัฒนาและต่อยอดแบบครบวงจรโดยใช้กลยุทธ์การเชื่อมต่อกับ“พันธมิตรทางธุรกิจทั้งในประเทศและต่างประเทศ" ในการรุกขยายงานทุกด้านเพื่อให้เกิดประสิทธิภาพสูงสุดในการทำงาน โดยดำเนินการภายใต้ใบอนุญาตทางธุรกิจที่ได้รับอนุมัติให้ดำเนินการทั้ง 5 ใบ

ขณะนี้ บล.เออีซี พร้อมเดินหน้าทำงานอย่างเต็มที่ โดยปัจจุบันมีหลายโครงการที่จะเข้าไปดูแลคิดเป็นมูลค่ากว่า 100,000 ล้านบาท ภายในระยะเวลา 3 ปี มีทั้งการเข้าไปเป็นที่ปรึกษาแนวทางการพัฒนาฟื้นฟูปรับโครงสร้างและการลงทุนในธุรกิจอุตสาหกรรมปิโตรเคมีระดับชั้นนำของประเทศมูลค่าประมาณ 10,000 ล้านบาท เป็นที่ปรึกษาในการระดมทุนให้กับผู้ประกอบการพลังงานทดแทน(wind power) ค่าประมาณ 20,000 ล้านบาท และโครงการอื่นๆ เพิ่มเติม

เนื่องจาก AEC เป็นที่เป็นที่ปรึกษาของ “China International Water & Electric Corporation (CWE)" ในการหาผู้ร่วมทุนและการทำธุรกรรมที่เกี่ยวกับพลังงานทดแทน ทั้งในส่วนของไฟฟ้าพลังงานน้ำพลังงานลม และ/หรือ พลังงานแสงอาทิตย์ รวมถึงการหาพันธมิตรทางธุรกิจเพื่อลงทุนในประเทศไทยด้วย เบื้องต้นคาดจะดึงเม็ดเงินเข้าลงทุนร่วมกับผู้ประกอบการไทยไม่ต่ำกว่า 50,000 ล้านบาท

นอกจากนี้ยังเป็นที่ปรึกษาของ Guangxi State Farms Agricultural Reclamation E-Commerce Co.,Ltd ซึ่งเป็นบริษัทนายหน้าซื้อขายสินค้าเกษตรล่วงหน้ารายใหญ่ของประเทศจีนให้เป็นที่ปรึกษาด้านการระดมทุน เพื่อทำหน้าที่ในการมองหาช่องทางแหล่งเงินทุนจากไทยสู่จีนและจีนสู่ไทย

บริษัทมีแผนที่จะยื่นเพื่อขอเป็นที่ปรึกษาในการจัดตั้งกองทุนรวมโครงสร้างพื้นฐาน(Infrastructure fund)ของภาครัฐและเอกชน ขนาดกองทุนประมาณ 20,000 ล้านบาท พร้อมทั้งเตรียมยื่นจัดตั้งบริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน(บลจ.)เพื่อสร้างธุรกิจให้มีเครือข่ายครบวงจร และล่าสุดนายอภิชัย เตชะอุบล ประธานกรรมการบริหาร บมจ.ไทยพัฒนาโรงงานอุตสาหกรรม (TFD)ได้มองเห็นศักยภาพการเติบโตที่โดดเด่นของ บล.เออีซี จึงเข้ามาร่วมถือหุ้นและพันธมิตรทางธุรกิจ พร้อมกันนี้ได้ตั้งให้ บล.เออีซี เป็นที่ปรึกษาในการทำธุรกรรมทางด้านลงทุนและระดมทุม เนื่องจาก TFD มีแผนจัดตั้งกองทรัสต์เพื่อการลงทุนในอสังหาริมทรัพย์ (Real Estate Investment Trusts : REIT) ขนาดเริ่มต้น 2,100 ล้านบาท และจะขยายเป็น 20,000 ล้านบาทภายใน 2 ปี พร้อมทั้งมีแผนนำบริษัทลูกของ TFD เข้าระดมทุนจากตลาดหลักทรัพย์ในปี 2557

และเร็วๆ นี้ บล.เออีซีเตรียมที่จะเปิดตัวพันธมิตรทางธุรกิจเพิ่มเติมทั้งชาวไทยและต่างประเทศอีกด้วย

“บล.เออีซี ในวันนี้มีความพร้อมอย่างเต็มที่เพื่อเข้าสู่การทำงานในวงการตลาดทุนอย่างเต็มตัว โดยทีมบริหารที่มีความมุ่งมั่นและตั้งใจอย่างเต็มที่ และมุ่งเน้นใช้หลักธรรมาภิบาลเป็นเสมือนเครื่องมือในการพัฒนาขีดความสามารถและนโยบายที่โปร่งใสตรวจสอบได้(Good Governance) นอกจากนี้ เรายังนำเอาเทคโนโลยีที่ทันสมัยเข้ามาใช้ในธุรกิจหลักทรัพย์พร้อมระบบการตรวจสอบทุกขั้นตอน"นายประพล กล่าว

ด้านนายกอบเกียรติ บุญธีรวร ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บล.เออีซี กล่าวว่า บริษัทได้รับอนุญาตให้เริ่มประกอบธุรกิจนายหน้าซื้อขายหลักทรัพย์และตัวแทนซื้อขายสัญญาซื้อขายล่วงหน้าจากสำนักงาน ก.ล.ต.และได้รับความเห็นชอบให้เริ่มส่งคำสั่งซื้อขายหลักทรัพย์และสัญญาซื้อขายล่วงหน้าในฐานะสมาชิกของตลาดหลักทรัพย์และตลาดสัญญาซื้อขายล่วงหน้าได้ตั้งแต่วันที่ 4 ตุลาคม 2556 ซึ่งช่วงเวลาที่ผ่านมาจนถึงขณะนี้ในด้านระบบไอทีเกี่ยวกับคำสั่งซื้อ-ขายหลักทรัพย์ สามารถดำเนินการได้อย่างมีประสิทธิภาพ ส่วนปริมาณการซื้อขายในแต่ละวันมีจำนวนเพิ่มดีขึ้นตามลำดับ

พร้อมกันนี้ บล.เออีซี มีแผนงานที่จะเปิดสาขาเพิ่มเติมทั้งในกรุงเทพฯและในเขตภูมิภาค ประมาณ 4 สาขา ภายในต้นปี 57 เพื่อให้บริการแก่ลูกค้าได้อย่างทั่วถึงและในอนาคตพร้อมที่จะเดินหน้าขยายสาขาอย่างต่อเนื่องให้ครอบคลุมทุกภูมิภาคทั้งนี้วางเป้าหมายครองส่วนแบ่งการตลาดในประเทศไทย(Market share)อยู่ในอันดับ TOP5 ภายใน 3 ปีข้างหน้า

ส่วนงานวาณิชธนกิจที่ให้บริการด้านที่ปรึกษาทางการเงินและการนำบริษัทเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ฯ (IPO)ขณะนี้ได้ทีมงานที่มีประสบการณ์ในด้านที่ปรึกษาทางการเงินอย่างยาวนานเข้ามารุกธุรกิจด้านวาณิชธนกิจอย่างเต็มที่ โดยขณะนี้เริ่มมีดีลในมือแล้วประมาณ 4 ราย ในการทำ IPO และดีลอื่นๆ อีกมากกว่า 10 ดีล ซึ่งคาดว่าจะสร้างรายได้ให้เห็นเป็นรูปธรรมในปีหน้า นอกจากนี้ยังให้ความสำคัญงานวิเคราะห์หลักทรัพย์เพราะถือว่าคุณภาพของงานคือปัจจัยสำคัญสำหรับการเจาะตลาดและการให้บริการลูกค้า ซึ่งขณะนี้ได้สร้างทีมวิเคราะห์หลักทรัพย์ชุดใหม่ โดยได้รับเกียรติจากนายณัฏฐ์วริน ไตรภพสกุล มารับหน้าที่เป็นผู้อำนวยการอาวุโสฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์

“บล.เออีซี มีความพร้อมที่จะดำเนินธุรกิจแบบครบวงจรเพื่อรองรับกระแสเงินทุนเคลื่อนย้ายโดยเฉพาะเมื่อมีการเปิดประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน ในปี 2558 ซึ่งคาดว่าจะเกิดธุรกรรมทางการเงินมากขึ้น โดยเฉพาะด้านวาณิชธนกิจ และด้วยทีมบริหารที่มีประสบการณ์มีความเชี่ยวชาญในธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับตลาดทุนและคอนเน็คชั่นกว้างขวาง ทำให้เรามั่นใจว่าจะสามารถให้บริการได้ครอบคลุมทุกธุรกรรมทางการเงิน-การลงทุน และสามารถก้าวไปสู้เป้าหมายที่วางเอาไว้ได้ในระยะเวลาอันใกล้นี้" นายกอบเกียรติ กล่าว


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ