ทั้งนี้ ธนาคารเพื่อการส่งออกและนำเข้าแห่งประเทศจีนได้ลงนามภายใต้กรอบความตกลงว่าด้วยการสนับสนุนเงินกู้เป็นจำนวนเงิน 11,600 ล้านบาทเพื่อพัฒนาโครงการ โดยการสนับสนุนดังกล่าวสืบเนื่องมาจากข้อตกลงจะว่าจ้างบริษัทรับเหมาก่อสร้างชั้นนำของจีน ซึ่งคาดว่าจะเป็น บีซีอีจี 1 ใน 10 บริษัทรับเหมาก่อสร้างยักษ์ใหญ่ของจีน ผู้ดำเนินการก่อสร้างสิ่งปลูกสร้างมาแล้วในหลายๆ ประเทศ อาทิ สหรัฐอเมริกา สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ สาธารณรัฐมอริเชียส มาเลเซีย และสิงคโปร์ จะได้เป็นผู้รับเหมาก่อสร้างโครงการนี้
มร.หยวน ซิง หยง รองกรรมการผู้จัดการ ตัวแทนจากธนาคารเพื่อการส่งออกและนำเข้าแห่งประเทศจีน กล่าวว่า โครงการแลนด์มาร์ค วอเตอร์ ฟร้อนท์ถือเป็นโครงการแรกในประเทศไทยที่ทางไชน่า เอ็กซิมแบงก์ตัดสินใจให้ความร่วมมือ ด้วยสถานที่ตั้ง ประสบการณ์การทำงานของทีมงาน และวิสัยทัศน์ของบริษัทที่ตั้งใจมุ่งมั่นพัฒนาโครงการคุณภาพ
ด้านนายเบน เตชะอุบล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร CGD กล่าวว่า ความสามารถในการบรรลุข้อตกลงเพื่อพัฒนาโครงการแลนด์มาร์ค วอเตอร์ฟร้อนท์ในภาวะเศรษฐกิจปัจจุบันกับไชน่า เอ็กซิมแบงก์ สะท้อนให้เห็นถึงความเชื่อมั่นของสถาบันการเงินระดับนานาชาติที่มีต่อศักยภาพของบริษัทและคุณภาพของโครงการ
เนื่องจากเป็นพื้นที่ทำเลทองผืนสุดท้ายริมแม่น้ำเจ้าพระยาของสำนักงานทรัพย์สินส่วนพระมหากษัตริย์ และยังครอบคลุมพื้นที่ทั้งหมดถึง 36 ไร่ โครงการนี้จึงเป็นที่น่าจับตามองที่สุดแห่งหนึ่งของไทย ประกอบด้วยโรงแรมพรีเมียม 2 โรงแรม และอาคารคอนโดมิเนียมพักอาศัยระดับหรู มีกำหนดก่อสร้างแล้วเสร็จในปี 2560 สำหรับอาคารคอนโดมิเนียมนั้น จะเป็นอาคารพักอาศัยระดับหรูโครงการแรกในบริเวณแม่น้ำเจ้าพระยาที่บริหารโดยโรงแรมห้าดาว มีจำนวนห้องชุด 350 ยูนิต และมีมูลค่ารวมกว่า 15,000 ล้านบาท
“โครงการแลนด์มาร์ค วอเตอร์ฟร้อนท์ นับเป็นโครงการสำคัญของบริษัทที่จะยิ่งเน้นย้ำจุดยืนความเป็นผู้นำของคันทรี กรุ๊ป ที่มีความแข็งแกร่งทั้งในส่วนของบริษัทการเงินและอสังหาริมทรัพย์ เรามีความเชื่อมั่นว่า โครงการนี้จะเปลี่ยนมาตรฐานตลาดอสังหาริมทรัพย์ระดับบน และจะมีส่วนสำคัญในการผลักดันเสน่ห์ริมแม่น้ำเจ้าพระยาของกรุงเทพฯ จากนี้ให้มีสีสันมากยิ่งขึ้น"นายเบน กล่าว