นายเทิดศักดิ์ ทวีธีระธรรม ผู้อำนวยการอาวุโสฝ่ายวิเคราะห์ บล.เอเซีย พลัส กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยวันนี้แนวโน้มดัชนีมีความเสี่ยงต่อการปรับตัวลง จากปัจจัยต่างประเทศในเรื่องของการเจรจาการปรับเพิ่มเพดานหนี้สาธารณะของสหรัฐฯ ที่ยังหาข้อสรุปไม่ได้ รวมถึงตลาดดาวน์โจนส์ปรับตัวลดลง 133 จุด และปัจจัยในประเทศที่ตลาดหุ้นไทยมีการปรับตัวขึ้นต่อเนื่องติดกันหลายวัน ส่งผลให้ P/E ขึ้นไปอยู่ที่ระดับ 16 เท่า มองว่าตลาดหุ้นไทยมีความเสี่ยงต่อความผันผวน ปรับตัวลดลงได้
"เช้านี้ยังเสี่ยงอยู่ จากที่เรื่องของเพดานหนี้สหรัฐฯยังหาข้อสรุปไม่ได้ และดาวน์โจนส์ก็ปรับตัวลง 133 จุด รวมถึงตลาดบ้านเราก็ปรับตัวขึ้นต่อเนื่องหลายวัน ทำให้ P/E อยู่ที่ระดับ 16 เท่า เสี่ยงต่อความผันผวน ลดลง" นายเทิดศักดิ์ กล่าว
ส่วนทิศทางตลาดหุ้นภูมิภาคมีเพียงประเทศญี่ปุ่นที่เคลื่อนไหวอยู่ในแดนบวก ส่วนประเทศอื่นๆ ยังไม่เห็นการเคลื่อนไหว
พร้อมให้แนวต้าน 1,480 จุด แนวรับ 1,450 จุด
ประเด็นของการพิจารณาการลงทุน :
- ตลาดหุ้นนิวยอร์คเมื่อวานนี้(15 ต.ค.)ดัชนีดาวโจนส์ปิดที่ 15,168.01 จุด ลดลง 133.25 จุด (-0.87%)ดัชนี S&P500 ปิดที่ 1,698.06 จุด ลดลง 12.08 จุด (-0.71%) ดัชนี Nasdaq ปิดที่ 3,794.01 จุด ลดลง 21.26 จุด (-0.56%)
- ตลาดหุ้นเอเชียเปิดเช้านี้ ดัชนี NIKKEI 225 ตลาดหุ้นญี่ปุ่นเปิดวันนี้ ลดลง 7.90 จุด, ดัชนี SSE Composite ตลาดหุ้นจีนเปิดวันนี้ ลดลง 5.30 จุด, ดัชนี HSI ตลาดหุ้นฮ่องกงเปิดวันนี้ เพิ่มขึ้น 14.42 จุด, ดัชนี TAIEX ตลาดหุ้นไต้หวันเปิดวันนี้ เพิ่มขึ้น 16.15 จุด, ดัชนี KOSPI ตลาดหุ้นเกาหลีใต้เปิดวันนี้ ลดลง 0.93 จุด, ดัชนี FTSE STI ตลาดหุ้นสิงคโปร์เปิดวันนี้ เพิ่มขึ้น 14.32 จุด, ดัชนี PSE Composite ตลาดหุ้นฟิลิปปินส์เปิดวันนี้ เพิ่มขึ้น 0.73 จุด, ดัชนี FBMKLCI ตลาดหุ้นมาเลเซียเปิดวันนี้ เพิ่มขึ้น 3.08 จุด และดัชนี S&P/ASX 200 ตลาดหุ้นออสเตรเลียเปิดวันนี้ ลดลง 0.30 จุด
- ตลาดหุ้นไทยปิดเมื่อวานนี้(15 ต.ค.)ที่ 1,472.90 จุด เพิ่มขึ้น 13.06 จุด(+0.89%)
- นักลงทุนต่างชาติซื้อสุทธิ 976.76 ล้านบาท เมื่อ 15 ต.ค.56
- ราคาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือน พ.ย.ในตลาดไนเม็กซ์ปิดทำการเมื่อวานนี้(15 ต.ค.)ที่ 101.21 ดอลลาร์/บาร์เรล ลดลง 1.20 ดอลลาร์ฯ
- ค่าการกลั่นอ้างอิงตลาดสิงคโปร์ปิดวานนี้(15 ต.ค.)ที่ 4.62 เหรียญฯ/บาร์เรล
- เงินบาทเปิด 31.26/28 ทรงตัวจากวานนี้ รอผลประชุมกนง.บ่ายนี้-เพดานหนี้สหรัฐฯ
- กรมสรรพากรเดินหน้าขยายฐานภาษีหลังรายได้ปี 2556 ร่วงต่ำเป้า 9 พันล้าน เตรียมตรวจเข้มภาษีนิติบุคคล ตามตรวจสินทรัพย์มาคำนวณภาษี หลังพบส่วนใหญ่แจ้งเฉพาะเงินสดหมุนเวียนหวังหนุนจัดเก็บรายได้งบปี 2557 ตามเป้า 1.9 ล้านล้าน
- ประชุมคณะรัฐมนตรี(ครม.)เมื่อวันที่ 15 ต.ค. มีมติเห็นชอบให้การรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย (รฟม.) ดำเนินการโครงการสายสีเขียว ช่วงหมอชิต-สะพานใหม่-คูคต ในวงเงิน 3.81 หมื่นล้านบาทโดยใช้แหล่งเงินจากร่าง พ.ร.บ.ให้อำนาจกระทรวงการคลังกู้เงินเพื่อการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานด้านคมนาคมขนส่ง 2 ล้านล้านบาท
- นายอุดม วงศ์วิวัฒน์ไชย เลขาธิการคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน (บีโอไอ) เปิดเผยว่า ในช่วง 9 เดือนแรกของปีนี้มีนักลงทุนยื่นขอรับส่งเสริมการลงทุนทางตรงจากต่างประเทศ (เอฟดีไอ) จำนวน 853 โครงการ เงินลงทุนรวม 3.5 แสนล้านบาท ซึ่งจำนวนโครงการและมูลค่าเงินลงทุนปรับลดลงเท่ากันที่ 19% คิดเป็นมูลค่า 8.2 หมื่นล้านบาทเมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน
- พ.อ.นที ศุกลรัตน์ ประธานคณะกรรมการกิจการกระจายเสียงและกิจการโทรทัศน์ (กสท.) กล่าวว่า กสท.ได้เตรียมแผนรับมือ กรณีที่เอกชนมองว่าราคาค่าเช่าโครงข่ายหรือมักซ์ทีวีดิจิตอลแพงเกินไป โดยจะขยายเวลาซื้อเอกสารการประมูลเพิ่มเติมหรือ ยกเลิกประมูล โดยเฉพาะช่องคมชัดสูง (เอชดี) ที่เอกชนระบุว่า อาจมีผู้เข้าประมูลน้อยกว่าหรือเท่ากับจำนวนช่อง คือ 7 ช่อง จากที่ซื้อเอกสารตอนแรก 12 ชุด
- "แบงก์ชาติ" ฟุ้งยอดสำรองสินเชื่อต่อ เอ็นพีแอล ธนาคารพาณิชย์ไทย แกร่งสุดในโลก เผยสูงกว่า 140% มูลค่ารวม 3.6 แสนล้านบาท นำหน้า "มาเลเซีย-สิงคโปร์" ส่วนเอ็นพีแอลยังทรงตัวที่ 2.2% ด้านหนี้เสียกลุ่มเช่าซื้อรถยนต์ ขยับเล็กน้อย จากสินเชื่อที่โตแรง ขณะที่ "แบงก์ทหารไทย" โชว์กำไรไตรมาส 3 พุ่ง 67%
- กองทุนรวม 9 เดือน สินทรัพย์ทะยานแตะ 2.8 ล้านล้านบาท มั่นใจทั้งปีโตทะลุ 10% เชื่อปัญหาเพดานหนี้มีโอกาสน้อย ประเมินไตรมาสสุดท้ายของปีนี้เงินจ่อ เข้ากองทุนประหยัดภาษีอีก 2 หมื่นล้านบาท เผยธุรกิจยังเติบโตดีหลังคนนิยม ลงทุนเพิ่มขึ้น "มอร์นิ่งสตาร์" เผยกองหุ้นโลกผลงานดีสุด 14.06% ขณะที่ "กองทองคำ" แย่สุดติดลบ 18.7% "จรัมพร" เตือนหุ้นไทยผันผวน จนกว่าสหรัฐเคลียร์เพดานหนี้สำเร็จ ด้าน "ภัทธีรา" แนะถือเงินสด รอดูสถานการณ์
*หุ้นเด่นวันนี้
- CCP-W2(ใบสำคัญแสดงสิทธิที่จะซื้อหุ้นสามัญของบมจ.ผลิตภัณฑ์คอนกรีตชลบุรี(CCP)เข้าเทรดวันนี้วันแรก มีจำนวน 99,995,555 หน่วย อัตราการใช้สิทธิ 1 ใบสำคัญแสดงสิทธิ : 1 หุ้นสามัญใหม่ ราคาการใช้สิทธิ 1.00 บาทต่อหุ้น อายุใบสำคัญแสดงสิทธิ 3 ปี นับจากวันที่ออกใบสำคัญแสดงสิทธิ ซึ่งออกวันที่ 1 ต.ค.2556 ราคาใบสำคัญแสดงสิทธิ 0.00 บาท โดยกำหนดวันใช้สิทธิครั้งแรก 30 ธ.ค. 2556 และวันใช้สิทธิครั้งสุดท้าย 30 ก.ย. 2559
- TOP(เคเคเทรด)"ซื้อ"เป้า 72 บาท ผลประกอบการ 3Q56 คาดว่าจะกลับมาทำกำไรสุทธิกว่า 5.1 พันล้านบาท พลิกจากขาดทุนใน 2Q56 ผลจากค่าการกลั่นที่ฟื้นตัว มีกำไรจากน้ำมันดิบในสต๊อกและกำลังการกลั่นเพิ่ม ส่วนในไตรมาสสุดท้ายของปีนี้อุปสงค์น้ำมันจะปรับเพิ่มเพราะเป็นฤดูหนาว น่าจะช่วยหนุนการฟื้นตัวของค่าการกลั่นและกำไรปกติได้ต่อเนื่อง ทำให้ระยะสั้นยังคงมุมมองเชิงบวกต่อกลุ่มโรงกลั่นและเชื่อว่า TOP จะเป็นหนึ่งในบริษัทที่จะประโยชน์จากการฟื้นตัวของค่าการกลั่น
- SYMC(เคเคเทรด)"ซื้อ"เป้า 19 บาท เมื่อเทียบ MTD ราคาหุ้นปรับตัวขึ้นเพียง 0.74% เทียบกับ SET และกลุ่ม ICT ที่ปรับตัวขึ้น 6.5% และ 6.6% ตามลำดับ ซึ่งเรามองว่าราคาหุ้น Laggard เกิดไป แม้ว่าจะประเมินว่าในไตรมาสที่ 3 บริษัทจะมีกำไรสุทธิ 53 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 6% QoQ แต่ลดลง 15% YoY ก็ตาม เนื่องจากสาเหตุที่กำไรสุทธิลดลง YoY เป็นผลมาจากการลงทุนเพื่อขยายโครงข่ายเอง แทนการเช่าโครงข่ายจาก กฟผ. ซึ่งจะเป็นเพียงผลกระทบระยะสั้นเท่านั้น และคาดว่ากำไรสุทธิในปี 2557 จะกลับมาขยายตัวราว 17% YoY
- TMB(เมย์แบงก์ กิมเอ็ง)"ซื้อเก็งกำไร"เป้า 2.70 บาท ประกาศกำไร 3Q56 ออกมาใกล้เคียงกับคาด และเติบโตโดดเด่นต่อเนื่อง โดยปรับประมาณการปี 56 ลงเล็กน้อย แต่ยังคงกำไรปี 57-58 และยังคงมุมมองในเชิงบวกต่อการ Turnaround ของผลการดำเนินงาน TMB อย่างไรก็ตามราคาหุ้นที่ขึ้นมาโดดเด่นในช่วง 3 เดือนที่ผ่านมา ทำให้ valuation ปัจจุบันค่อนข้างแพง ส่วนประเด็น M&A จะเป็น upside risk ต่อราคาหุ้น โดยมีข่าวว่าสถาบันการเงินต่างประเทศหลายแห่งสนใจซื้อหุ้นจาก ING และผู้ถือหุ้นรายอื่นๆ ซึ่งมองว่าราคาเสนอซื้ออาจจะสูงกว่าปัจจัยพื้นฐาน