บล.ธนชาต ระบุในบทวิเคราะห์ฯแนะ"ซื้อ"หุ้น บมจ.ท่าอากาศยานไทย(AOT) เชื่อว่า valuation ที่สูงในปัจจุบันของ AOT นั้นสมเหตุสมผล ด้วยมีปัจจัยผลักดันกำไรที่ชัดเจน ซึ่งคาดว่ากำไรจะเติบโตเฉลี่ยต่อปีที่ 29% ในปี FY13-15 และมี upsides จากรายได้ค่าสัมปทานหลังเปิดอาคารผู้โดยสารที่ 2 ของสนามบินดอนเมืองในกลางปี 2014 และการขยายสุวรรณภูมิเฟส 2 ในปี 2018
ทั้งนี้ ได้ปรับเพิ่ม TP(ราคาเป้าหมาย)DCF สำหรับ AOT ขึ้นเป็น 250 บาท/หุ้น จาก 198 บาท ด้วยเหตุผลดังต่อไปนี้ ได้ปรับสมมติฐานการเติบโตของผู้โดยสารขึ้นเป็น 19.9% (จาก 16.9%) ในปี FY13 เพราะจำนวนผู้โดยสารที่สูงกว่าคาดที่ 20.3% ใน 11MFY13, ได้รวมการใช้ระบบคัดกรองผู้โดยสารล่วงหน้า (APPS) ในช่วง 3QFY14 ซึ่งทำให้ AOT ได้ผลตอบแทนเพิ่ม 111-233 ลบ./ปี ในปี FY14-15 ในประมาณการ
นอกจากนี้ ได้ปรับลดสมมติฐานอัตราส่วน SG&A/Sales ลงเป็น 19.5-21.5% (จาก 20-22.5%) ในปี FY13-15 และปรับมาใช้ประมาณการปี FY14 เป็นปีฐาน ด้วยธุรกิจที่มีลักษณะผูกขาด มีปัจจัยผลักดันกำไรที่ชัดเจน และคาดว่า EPS จะเติบโตเฉลี่ยต่อปีในช่วง 3 ปีที่ 29% และซื้อขายที่ PE ที่ต่ำลงมาอยู่ที่ 22 เท่า ในปี FY14 และ 18 เท่า ในปี FY15 จึงเชื่อว่า AOT นั้นไม่แพง และยังคงเป็น Top Country Pick
อีกทั้งคาดว่าการปรับขึ้นค่าภาษีสนามบินน่าจะประกาศภายในสิ้นปี 2013 เนื่องจากกฎกระทรวงใหม่ซึ่งกำหนดแนวทางในการปรับค่าบริการผู้โดยสาร (PSCs) ได้ประกาศลงในราชกิจจานุเบกษาแล้ว นอกจากนี้กรมการบินพลเรือน (DCA) ได้ตั้งคณะกรรมการเพื่อพิจารณาประเด็นนี้แล้ว และเมื่อได้ข้อสรุป คณะกรรมการจะยื่นเรื่องไปยังรัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคมเพื่อพิจารณาอนุมัติ โดยได้รวมปัจจัยภาษีสนามบินใหม่ซึ่งคาดว่าจะมีผลบังคับในเดือน ก.ค.14 ในประมาณการแล้ว
แต่อย่างไรก็ตามการเลื่อนการปรับขึ้นค่าภาษีสนามบินออกไปยังปี FY18 หลังการขยายสุวรรณภูมิเฟส 2 แล้วเสร็จ จะเป็นสาเหตุให้ TP(ราคาเป้าหมาย)ลดลงมาอยู่ที่ 245 บาท/หุ้น