โบรกฯ เชียร์"ซื้อ" BCP คาดกำไร Q3/56 โตทั้งQoQ-YoY จากกำลังกลั่นเพิ่ม

ข่าวหุ้น-การเงิน Wednesday October 16, 2013 11:49 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

โบรกเกอร์ต่างเทใจเชียร์"ซื้อ" หุ้นบมจ.บางจาก ปิโตรเลียม(BCP)คาดกำไรสุทธิในไตรมาส 3/56 ประมาณ 1.14-2.0 พันล้านบาท เติบโตดีเมื่อเทียบกับไตรมาส 2/56(QoQ)และเมื่อเทียบกับไตรมาส 3/55(YoY)เนื่องมาจากกำลังการกลั่นเพิ่มขึ้น และมีกำไรจากสต๊อกน้ำมัน ช่วยชดเชยค่าการกลั่นที่อ่อนตัวลงที่ประมาณ 4.7-5.1 เหรียญ/บาร์เรล และค่าการตลาดที่ลดลงในไตรมาสนี้

ทั้งนี้ บริษัทจะประกาศผลการดำเนินงานในไตรมาส 3/56 ในวันที่ 8 พ.ย.56

แนวโน้มกำไรในไตรมาส 4/56 จะสูงขึ้น ปัจจัยหนุนมาจากอัตราการใช้กำลังการกลั่นที่เพิ่มสูงขึ้น, ปริมาณขายผ่านช่องทางการตลาดที่เติบโต, ค่าการกลั่นตลาดที่สูงขึ้น และส่วนแบ่งกำไรจากธุรกิจไฟฟ้าจากพลังงานแสงอาทิตย์ที่เพิ่มสูงขึ้น

นอกจากนี้ ยังเห็นราคาหุ้น BCP ถูกมากในกลุ่มโรงกลั่น ทำให้มี Upside ค่อนข้างมาก

          โบรกเกอร์           คำแนะนำ          ราคาเป้าหมาย(บาท/หุ้น)
          บล.บัวหลวง           ซื้อ                    44.00
          บล.เอเชียพลัส         ซื้อ                    43.13
          บล.เคทีบีฯ            ซื้อ                    41.40
          บล.เคจีไอ            ซื้อ                    41.00
          บล.ทรีนิตี้             ซื้อ                    41.00
          บล.กรุงศรี            ซื้อ                    41.00
          บล.ไอร่า             ซื้อ                    40.50
          บล.เคเทคเทรด        ซื้อ                    40.00
          บล.ฟิลลิปฯ            ซื้อเก็งกำไร             38.50

นายเบญจพล สุทธิ์วนิช รองผู้อำนวยการฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.เคเคเทรด กล่าวแนะนำ"ซื้อ"หุ้น BCP เพราะเห็นว่าราคาหุ้นยังถูกเมื่อเทียบกับตัวอื่นในกลุ่มโรงกลั่นด้วยกัน อาทิ IRPC, TOP หลังจากที่หุ้นปรับตัวลงมาค่อนข้างมาก จึงเห็นว่ามี upside มาก โดยเป็นโรงกลั่นที่มี ROE สูงถึง 14-15%

ในไตรมาส 3/56 คาดว่า จะมีกำไรสุทธิ 1,145 ล้านบาท เติบโตทั้ง QoQ และ YoY แม้ว่าค่าการกลั่นในเดือน ก.ย.จะปรับตัวลงมาค่อนข้างมาก ทำให้ค่าการกลั่นพื้นฐานคาดว่าจะอยู่ที่ 5.1 เหรียญสหรัฐ/บาร์เรล แต่ในไตรมาส 3 นี้กำลังการกลั่นเพิ่มขึ้นมาที่ระดับ 1.01 แสนบาร์เรล/วัน จาก 9.6 หมื่นบาร์เรล/วัน ทำให้รายได้เพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ

นอกจากนี้ ในไตรมาส 3 นี้คาดว่าจะมี stock gain พลิกจากไตรมาส 2/56 ที่มี stock loss และผลขาดทุนจากอัตราแลกเปลี่ยนลดลงจากไตรมาสก่อน อีกทั้งรายได้จากโซลาร์ฟาร์มเฟส 2 ที่อยุธยาจจะรับรู้รายได้เต็มไตรมาส 3/56 หลังจากที่เริ่มตั้งแต่ เม.ย.56

"ภาพโดยรวมแล้วถึงจะถูกดึงจากค่าการกลั่นลดลง ธุรกิจการตลาดที่ยังเป็น low season ของการใช้น้ำมัน แต่ปัจจัยบวก 4 ปัจจัยทำให้ไตรมาส 3 นี้ก็ยังเติบโตทั้ง YoY และ QoQ"นายเบญจพล กล่าว

น.ส.นลินรัตน์ กิตติกำพลรัตน์ นักวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.เอเชีย พลัส ระบุว่า คาดกำไรสุทธิงวดไตรมาส 3/56 เท่ากับ 1.21 พันล้านบาท เพิ่มขึ้นกว่า 3 เท่าตัวจากงวดก่อนหน้า เป็นผลจากกำไรจากสต๊อกน้ำมัน, กำลังการผลิตเพิ่มขึ้น 5.6% จากไตรมาสก่อน มาอยู่ที่เฉลี่ย 1.01 แสนบาร์เรล/วัน และ คาดว่าจะมีกำไรจากอัตราแลกเปลี่ยน แม้ว่าค่าการกลั่นจะปรับลดลงมาอยู่ที่เฉลี่ย 4.7 เหรียญ/บาร์เรล

ในเบื้องต้นหากอ้างอิงประมาณการใหม่ จะพบว่ามูลค่าพื้นฐาน ณ สิ้นปี 56(DCF)จะเท่ากับ 43.13 บาทต่อหุ้น(จากปัจจุบันที่ 50 บาท)ซึ่งยังมี Upside ถึง 27% จึงคงคำแนะนำซื้อลงทุน โดยคาดประมาณการกำไรจากการดำเนินงานปกติ(Norm Profit) และกำไรสุทธิในปี 56 ภายหลังปรับปรุง จะลดลงราว 30% มาที่ 5.45 พันล้านบาท และ 12% จากประมาณการเดิม และคาดกำไรในปี 57 เป็น 6.22 พันล้านบาท

บล.บัวหลวง คาดการณ์กำไร BCP เติบโตแข็งแกร่งในไตรมาส 3/56 น่าจะเป็นปัจจัยหนุนราคาหุ้นให้ปรับตัวสูงขึ้น แม้ว่ากำไรหลักอาจต่ำกว่าที่ตลาดคาด เนื่องจากกำไรจากธุรกิจค้าปลีกน้ำมันต่ำกว่าคาดการณ์ก่อนหน้านี้ เชื่อว่าผลการดำเนินงานหลักจะกลับมาฟื้นตัวในไตรมาส 4/56 หนุนโดยอุปสงค์ในช่วงไฮซีซั่น

นอกจากนี้ แม้ว่าเราจะมีมุมมองเชิงลบต่อปัจจัยพื้นฐานของธุรกิจโรงกลั่น แต่โมเดลธุรกิจที่โดดเด่นของ BCP(ธุรกิจโรงกลั่น+ธุรกิจค้าปลีกน้ำมัน+ธุรกิจไฟฟ้าจากพลังงานแสงอาทิตย์)จะดึงดูดความสนใจของนักลงทุนได้ในช่วงหลายเดือนข้างหน้า มูลค่าหุ้นยังคงไม่แพง โดยมี PER ปี 57 ที่ 8.6 เท่า ต่ำกว่าค่าเฉลี่ยภูมิภาคที่ 10.8 เท่า และมีอัตราผลตอบแทนจากเงินปันผลที่ 5.2% สำหรับปี 57 สูงกว่าค่าเฉลี่ยกลุ่มโรงกลั่นในเอเชียที่ 3.3%

ทั้งนี้ คาดว่า BCP จะรายงานกำไรสุทธิไตรมาส 3/56 ที่ 2,003 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 87% YoY และ 392% QoQ หากไม่รับรวมสมมติฐานกำไรจากอัตราแลกเปลี่ยนจำนวน 15 ล้านบาท ส่วนไตรมาส 4/56 จากแนวทางที่ได้รับจากผู้บริหาร คาดว่ากำไรหลักในไตรมาส 4/56 จะเพิ่มสูงขึ้น YoY และ QoQ ปัจจัยหนุนมาจากอัตราการใช้กำลังการกลั่นที่เพิ่มสูงขึ้น, ปริมาณขายผ่านช่องทางการตลาดที่เติบโต, ค่าการกลั่นตลาดที่สูงขึ้น และส่วนแบ่งกำไรจากธุรกิจไฟฟ้าจากพลังงานแสงอาทิตย์ที่เพิ่มสูงขึ้น

ผลดำเนินงานในปี 57 แม้ว่าแนวโน้มการเดินเครื่องโรงกลั่นจะไม่สูงเท่ากับปี 56 ที่ราว 1 แสนบาร์เรล/วัน เนื่องจากมีแผนหยุดซ่อมบำรุงพร้อมกับเปลี่ยนหอกลั่นช่วงเดือนพ.ค.57 เป็นเวลา 45 วันแต่เชื่อว่าผลดำเนินงานจะได้ส่วนชดเชยจากการขยายกำลังการผลิตจากธุรกิจพลังงานทางเลือก โดยเป็นโครงการโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ PHASE 3(ขนาด 48 MW)


แท็ก บางจาก   (BCP)  

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ