อีกทั้งความต้องการใช้ก๊าซ LPG ทั้งในและต่างประเทศมีการปรับตัวเพิ่มขึ้นด้วยเช่นกัน จึงคาดว่าจะเป็นปัจจัยสำคัญที่สนับสนุนให้ภาพรวมผลประกอบการในช่วงครึ่งปีหลังของบริษัทมีแนวโน้มเติบโตที่ดีกว่าในช่วงครึ่งปีแรก อีกทั้ง จะช่วยสนับสนุนเป้าหมายรายได้ปีนี้ที่วางไว้ว่าจะเติบโตราว 60,000 ล้านบาท จากปีก่อนอยู่ที่ 47,751.88 ล้านบาท และคาดว่ากำไรสุทธิจะมีทิศทางเติบโตต่อเนื่อง จากปีก่อนที่ 817.05 ล้านบาท
“ปกติแล้วในครึ่งปีหลังถือเป็นช่วง High Season ของธุรกิจ โดยคาดว่าผลงานที่จะออกมาในไตรมาส 3/56 ก็พอจะเห็นแนวโน้มในทิศทางที่ดีจากการใช้ก๊าซ LPG เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องทั้งในและต่างประเทศ โดยในประเทศเองนั้นก๊าซ LPG ถือเป็นพลังงานหลักในด้านการนำไปใช้เชื้อเพลิงในการทำอาหาร และยังเป็นพลังงานทางเลือกในด้านการขนส่งและด้านอุตสาหกรรมที่มีความสะดวกในการใช้งาน และรักษาสิ่งแวดล้อมมากกว่าพลังงานชนิดอื่น ส่งผลให้ผู้ประกอบการภาคอุตสาหกรรมและภาคขนส่งหันมาใช้ก๊าซ LPG เพิ่มขึ้น
สำหรับในส่วนของตลาด LPG ในต่างประเทศ ถือเป็นช่วงที่เริ่มจะเข้าสู่ฤดูหนาว การสำรองพลังงานเพื่อที่จะใช้จึงเป็นสิ่งจำเป็น ซึ่งจะดันให้มีปริมาณความต้องการใช้ก๊าซ LPG ในการทำความร้อนมากขึ้น บริษัทจึงมีความมั่นใจว่าผลประกอบการในไตรมาส 3/56 จะกลับมามีกำไรได้ หลังจากครึ่งปีแรกที่ผ่านมามีผลประกอบการที่ขาดทุน แต่โดยรวมทั้งปีแล้ว บริษัทยังคงคาดว่าผลงานจะสามารถเติบโตได้ดีกว่าปีที่ผ่านมาได้"นางจินตณา กล่าว
อย่างไรก็ตาม ก่อนหน้านี้บริษัทได้มีการเจรจาซื้อคลังก๊าซเพิ่มอีก 1 แห่งในประเทศแถบอาเซียน ซึ่งคาดว่าจะได้ข้อสรุปภายในปีนี้ อีกทั้งยังพร้อมรุกตลาดต่างประเทศในแถบอาเซียนเพิ่มเติมอีกเมื่อมีโอกาสที่ดี และมีดีลที่น่าสนใจ เพื่อรองรับการเปิดประชาคมเศรษฐกิจอาเซียนในปี 2558 ซึ่งจะเป็นอีกปัจจัยสำคัญที่จะเข้ามาสนับสนุนผลประกอบการบริษัทให้เติบโตอย่างแข็งแกร่งได้ในอนาคต
ปัจจุบัน สัดส่วนรายได้มาจากในประเทศร้อยละ 40 และมาจากต่างประเทศร้อยละ 60 และคาดว่าสัดส่วนรายได้ต่างประเทศจะยังคงเพิ่มขึ้นได้อีกในอนาคต เนื่องจากโอกาสทางธุรกิจในตลาดต่างประเทศยังมีอยู่อีกมาก
“บริษัทก็ยังคงมีการตั้งงบลงทุนในการเข้าไปซื้อคลังก๊าซและโรงบรรจุก๊าซ รวมถึงการขยายร้านค้าเพื่อจัดจำหน่ายลงไปในระดับค้าปลีกในต่างประเทศเพิ่มเติมอีก เพื่อที่จะทำให้บริษัทสามารถบริหารจัดการสินค้าและคลังสินค้าได้อย่างมีประสิทธิภาพตั้งแต่ต้นน้ำคือการขายแบบค้าส่งขนาดใหญ่ จนถึงปลายน้ำคือการจำหน่ายถึงผู้บริโภคโดยตรง ซึ่งจะช่วยให้บริษัทได้มาร์จิ้นที่สูงขึ้นมากกว่าในปัจจุบัน และจะช่วยลดผลกระทบจากการเปลี่ยนแปลงของราคา LPG ตลาดโลกด้วยเช่นกัน ดังนั้น ในอีก 2-3 ปีข้างหน้าการขยายการลงทุนไปยังต่างประเทศจึงยังถือเป็นกลยุทธ์หลักที่สำคัญในการขยายธุรกิจของบริษัทต่อไป" นางจินตนา กล่าว