ทั้งนี้ ในปี 57 บริษัทตั้งเป้ามีรายได้เติบโต 15% จากปีนี้ที่คาดว่าจะมีรายได้ราว 4 พันล้านบาท และเชื่อว่าจะสามารถล้างขาดทุนสะสมที่มีกว่า 80 ล้านบาทได้หมดในปีนี้ หลังจากช่วงครึ่งแรกของปีบริษัทมีกำไรแล้ว 90 ล้านบาท
นายอนุรักษ์ ธารีรัตนาวิบูลย์ กรรมการผู้จัดการ AIE กล่าวว่า บริษัทเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ เอ็ม เอ ไอ (mai) ด้วยเกณฑ์มาร์เก็ตแคป และไม่กังวลเรื่องราคาหุ้น เพราะบริษัทมีแผนธุรกิจชัดเจน โดยเฉพาะแผนล้างขาดทุนสะสมที่มีอยู่กว่า 80 ล้านบาทให้หมดภายในปีนี้ เพราะครึ่งปีแรกมีกำไรแล้ว 90 ล้านบาท โดยมีอัตรากำไรขั้นต้นเฉลี่ยที่ 8% อัตรากำไรสุทธิ 4% ซึ่งเป็นระดับสูงสุดและจะรักษาระดับนี้ไว้
บริษัทยังมั่นใจว่ารายได้ในปีนี้จะเป็นไปตามเป้าหมายที่ 4,000 ล้านบาท จากปี 55 มีรายได้ราว 3,000 ล้านบาท ส่วนปี 57 ตั้งเป้ารายได้เติบโต 15% จากปีนี้ จากกำลังการผลิตที่จะเพิ่มขึ้นหลังปรับปรุงกระบวนการผลิต ซึ่งบริษัทมีแผนจะใช้เงินจากการขาย IPO ไปลงทุนโรงกลั่นแห่งใหม่ในพื้นที่เดิม 120 ล้านบาทเพื่อซื้อเครื่องจักรผลิตไบโอดีเซลจากกรดไขมันปาล์ม, ปรับปรุงกระบวนการผลิต และซื้อแท้งก์ฟาร์มเพิ่มสำหรับจัดเก็บวัตถุดิบ
ขณะที่เงินบางส่วนจะนำไปชำระหนี้ที่มีอยู่กว่า 900 ล้านบาท ซึ่งปัจจุบัน สัดส่วนหนี้สินต่อทุน(D/E) อยู่ที่ 1.2 เท่า หลังระดมทุนและนำเงินไปชำระหนี้บางส่วนแล้วจะทำให้ D/E ลดลง
ปัจจุบัน สัดส่วนรายได้ของบริษัทมาจากธุรกิจไบโอดีเซล 70% น้ำมันปาล์มเพื่อการบริโภค 30% บริษัทก็ยังเน้นธุรกิจไบโอดีเซลอยู่เพราะมีอัตรากำไรขั้นต้น 10% ซึ่งสูงกว่าน้ำมันปาล์มเพื่อการบริโภค ปัจจุบันส่งออกน้ำมันปาล์มเพื่อการบริโภคไปยังลาว พม่า กัมพูชา โดยขณะนี้มีกำลังการผลิตรวมอยู่ที่ 1,150 ตันน้ำมันปาล์มดิบ/วัน (หอกลั่น 1 และหอกลั่น 2) ซึ่งยังเพียงพอกับความต้องการอีก 3 ปี
นายอนุรักษ์ ลก่าวว่า บริษัทจะเริ่มเดินสายโรดโชว์เพื่อให้ข้อมูลกับนักลงทุนต้นเดือน พ.ย.56 เป็นต้นไป ราว 15 จังหวัด ภายหลังจากที่สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์(ก.ล.ต.) เข้าเยี่ยมชมโรงงานแล้ว
ทั้งนี้ บริษัทจะเสนอขายหุ้น IPO จำนวน 445 ล้านหุ้น มูลค่าที่ตราไว้หุ้นละ 1 บาท โดยเป็นการออกหุ้นสามัญใหม่ 170 ล้านหุ้น พร้อมนำหุ้นที่ AI ถืออยู่จำนวน 275 ล้านหุ้น โดยจะออกมาจำหน่ายในคราวเดียวกัน