AOT เผยสนามบินสุวรรณภูมิพร้อมรับมือปัญหาน้ำท่วม เฝ้าระวังระดับน้ำตลอด

ข่าวหุ้น-การเงิน Thursday October 17, 2013 08:56 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิเตรียมพร้อมรับมือปัญหาน้ำท่วม จัดเจ้าหน้าที่เฝ้าระวังระดับน้ำทั้งภายในและภายนอก รวมทั้งคอยตรวจสอบความแข็งแรงของเขื่อน และระบบระบายน้ำให้มีความพร้อมใช้งานได้อย่างมีประสิทธิภาพ ตลอด 24 ชั่วโมง

นางระวีวรรณ เนตระคเวสนะ ผู้อำนวยการท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ บมจ.ท่าอากาศยานไทย(AOT) หรือ ทอท. เปิดเผยว่า จากที่ในขณะนี้ได้เกิดเหตุอุทกภัยในพื้นที่จังหวัดภาคตะวันออกเฉียงเหนือ และภาคกลางของประเทศ เช่น ปราจีนบุรี สระแก้ว ฉะเชิงเทรา อยุธยา ฯลฯ ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ (ทสภ.)ในฐานะที่เป็นท่าอากาศยานหลักของประเทศ ซึ่งต้องเปิดให้บริการตลอด 24 ชั่วโมงจึงได้มีการเฝ้าระวังและติดตามสถานการณ์น้ำท่วมอย่างใกล้ชิด

โดยท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ มีระบบป้องกันน้ำท่วมจากภายนอก ซึ่งมีลักษณะเป็นเขื่อนดินล้อมรอบพื้นที่ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิมีความกว้าง 3 เมตร ยาว 23.5 กิโลเมตร ฐานเขื่อนกว้าง 37 เมตร สูง 3.5 เมตร โดยในเบื้องต้นท่าอากาศยานสุวรรณภูมิมีการจัดเจ้าหน้าที่ตรวจสอบสภาพความแข็งแรงของเขื่อนดิน เพื่อให้มั่นใจว่าเขื่อนดินมีความแข็งแรงสามารถป้องกันน้ำจากภายนอกไม่ให้เข้ามาภายในพื้นที่ ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิได้อย่างมีประสิทธิภาพ

นอกจากนี้ยังให้เจ้าหน้าที่ทำการตรวจเช็คระดับน้ำคลองโดยรอบพื้นที่ ทสภ. อาทิ คลองลาดกระบัง คลองหนองงูเห่า ฯลฯ และติดตามสถานการณ์ระดับน้ำของประตูระบายน้ำและสถานีสูบน้ำรอบ ทสภ.เป็นประจำทุกวันอย่างใกล้ชิดเพื่อเป็นการเฝ้าระวังด้วย

นางระวีวรรณ กล่าวว่า สำหรับในส่วนของการเตรียมความพร้อมในการรองรับปริมาณน้ำฝนภายในพื้นที่ท่าอากาศยานนั้น ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ มีระบบป้องกันน้ำท่วมภายใน ประกอบด้วย ระบบกักเก็บน้ำและระบบระบายน้ำ โดย ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ จะมีคลองและอ่างเก็บน้ำ ซึ่งทำเป็นแก้มลิงเพื่อกักเก็บน้ำภายในพื้นที่ทั้งหมด 6 แห่ง มีศักยภาพในการกักเก็บน้ำได้สูงถึง 4 ล้านลูกบาศก์เมตร ซึ่งในปัจจุบันท่าอากาศยานสุวรรณภูมิได้มีการรักษาระดับน้ำในอ่างเก็บน้ำดังกล่าวไว้ที่ 1.5 เมตรของระดับน้ำทะเลปานกลาง ซึ่งจะทำให้ยังคงเหลือพื้นที่รองรับน้ำในกรณีที่เกิดฝนตกได้อีก 3 ล้านลูกบาศ์กเมตร เพื่อให้ไม่ต้องสูบน้ำออกไปยังพื้นที่ภายนอก

อย่างไรก็ตาม ในกรณีเกิดมรสุมมีฝนตกหนักติดต่อกันเป็นเวลานานและมีปริมาณมาก ซึ่งทำให้พื้นที่รับน้ำของ ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิไม่สามารถรองรับปริมาณน้ำฝนได้อีก ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิจำเป็นต้องมีการสูบระบายน้ำออกบ้าง เพื่อไม่ให้กระทบต่อการให้บริการ

โดยระบบระบายน้ำของท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ ประกอบด้วย สถานีสูบน้ำ 2 สถานี ตั้งอยู่ทางด้านทิศใต้ ฝั่งตะวันออก และทิศใต้ ฝั่งตะวันตก ซึ่งแต่ละสถานีจะมีเครื่องสูบระบายน้ำ ขนาด 2 ลูกบาศก์เมตร/วินาที จำนวน 4 เครื่อง รวมมีเครื่องสูบน้ำทั้งสิ้น 8 เครื่อง มีศักยภาพในการสูบระบายน้ำได้ 12 ลูกบาส์กเมตร/ วินาที

ในกรณีที่ ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิจำเป็นต้องมีการระบายน้ำออกนอกพื้นที่ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ จะได้มีการประสานการทำงานร่วมกับกรมชลประทาน เพื่อให้เร่งดำเนินการผลักดันน้ำและเร่งระบายน้ำออกไปทางด้านทิศใต้และให้ไหลลงสู่ทะเลให้เร็วที่สุด เพื่อไม่ให้ส่งผลกระทบต่อชุมชนโดยรอบ ซึ่งขณะนี้ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ ได้มีการเตรียมความพร้อมในเรื่องดังกล่าว โดยได้ทำการตรวจสอบและบำรุงรักษาเครื่องสูบระบายน้ำรวมทั้งระบบต่างๆ ที่เกี่ยวข้องให้อยู่ในสภาพดี รวมทั้งได้ทำการเพิ่มกำลังระบบไฟฟ้าและเครื่องกำเนิดไฟฟ้า เพื่อให้เครื่องสูบระบายน้ำของท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ. ซึ่งมีทั้งหมด 8 เครื่อง ให้สามารถพร้อมใช้งานได้ตลอดเวลา

นางระวีวรรณ กล่าวเพิ่มเติมว่า ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิยังได้มีการจัดทำแผนเผชิญเหตุอุทกภัยของท่าอากาศยานไว้แล้ว เพื่อรองรับหากเกิดสถานการณ์ฉุกเฉิน เกิดอุทกภัยภายในท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ เพื่อให้หน่วยงานต่างๆ ที่เกี่ยวข้อง ทั้งหน่วยงานราชการ สายการบิน ผู้ประกอบการ สามารถป้องกันและร่วมกันแก้ไขปัญหาได้อย่างรวดเร็วและถูกต้อง เพื่อไม่ให้ส่งผลกระทบต่อผู้ใช้บริการ


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ