(เพิ่มเติม) ภาวะตลาดหุ้นไทย: แนวโน้มดัชนีเช้านี้ปรับขึ้นตามตลาดตปท. ขานรับ"เพดานหนี้"ผ่านวุฒิสภา

พร้อมให้แนวรับ 1,460 จุด แนวต้าน 1,475-1,500 จุด

เช้านี้มีรายงานว่า สภาผู้แทนราษฎรสหรัฐลงมติเห็นชอบร่างกฎหมายงบประมาณฉบับสำคัญ ซึ่งจะช่วยให้รัฐบาลสามารถรอดพ้นจากการผิดนัดชำระหนี้ได้ก่อนกำหนดเส้นตายในวันที่ 17 ต.ค. ขณะที่เหลือเวลาอีกไม่กี่ชั่วโมงก็จะถึงเส้นตายดังกล่าวแล้ว

ร่างกฎหมายดังกล่าวจะจัดสรรงบประมาณสำหรับการดำเนินงานของรัฐบาลไปจนถึงวันที่ 15 ม.ค. และปรับเพิ่มเพดานหนี้ไปจนถึงวันที่ 7 ก.พ. ทั้งนี้ จะต้องมีการเสนอร่างกฎหมายฉบับนี้ต่อทำเนียบขาวเพื่อให้ประธานาธิบดีบารัค โอบามา พิจารณาลงนามบังคับใช้เป็นกฎหมายต่อไป

ปธน.โอบามาได้กล่าวหลังจากที่วุฒิสภาลงมติเห็นชอบร่างกฎหมายงบประมาณดังกล่าวว่า เขาจะลงนามร่างกฎหมายในการเพิ่มเพดานหนี้และเปิดหน่วยงานรัฐบาล เพื่อบังคับใช้เป็นกฎหมายในทันทีที่มีการเสนอร่างกฎหมายดังกล่วมายังทำเนียบขาว หลังผ่านการลงมติในสภาผู้แทนราษฎรแล้ว

ประเด็นของการพิจารณาการลงทุน :

• ตลาดหุ้นนิวยอร์คเมื่อวานนี้(16 ต.ค.)ดัชนีดาวโจนส์ปิดที่ 15,373.83 จุด เพิ่มขึ้น 205.82 จุด (+1.36%)ดัชนี S&P500 ปิดที่ 1,721.54 จุด เพิ่มขึ้น 23.48 จุด (+1.38%) ดัชนี Nasdaq ปิดที่ 3,839.43 จุด เพิ่มขึ้น 45.42 จุด (+1.20%)
• ตลาดหุ้นเอเชียเปิดเช้านี้ ดัชนี NIKKEI 225 ตลาดหุ้นญี่ปุ่นเปิดวันนี้ เพิ่มขึ้น 172.94 จุด, ดัชนี SSE Composite ตลาดหุ้นจีนเปิดวันนี้ เพิ่มขึ้น 8.64 จุด, ดัชนี HSI ตลาดหุ้นฮ่องกงเปิดวันนี้ เพิ่มขึ้น 123.15 จุด, ดัชนี TAIEX ตลาดหุ้นไต้หวันเปิดวันนี้ เพิ่มขึ้น 58.70 จุด, ดัชนี KOSPI ตลาดหุ้นเกาหลีใต้เปิดวันนี้ เพิ่มขึ้น 16.58 จุด, ดัชนี FTSE STI ตลาดหุ้นสิงคโปร์เปิดวันนี้ เพิ่มขึ้น 21.87 จุด, ดัชนี FBMKLCI ตลาดหุ้นมาเลเซียเปิดวันนี้ เพิ่มขึ้น 9.67 จุด และดัชนี S&P/ASX 200 ตลาดหุ้นออสเตรเลียเปิดวันนี้ เพิ่มขึ้น 3.80 จุด
• ตลาดหุ้นไทยปิดเมื่อวานนี้(16 ต.ค.)ที่ 1,464.38 จุด ลดลง 8.52 จุด(-0.58%)
• นักลงทุนต่างชาติขายสุทธิ 29.65 ล้านบาท เมื่อ 16 ต.ค.56
• ราคาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือน พ.ย.ในตลาดไนเม็กซ์ปิดทำการเมื่อวานนี้(16 ต.ค.)ที่ 102.29 ดอลลาร์/บาร์เรล เพิ่มขึ้น 1.08 ดอลลาร์ฯ
• ค่าการกลั่นอ้างอิงตลาดสิงคโปร์ปิดวานนี้(16 ต.ค.)ที่ 3.83 เหรียญฯ/บาร์เรล
• เงินบาทเปิด 31.14/18 แข็งค่า ขานรับวุฒิสภาสหรัฐผ่านกม.เพิ่มเพดานหนี้ ทันกำหนด
• กูรูตลาดทุน-ตลาดทอง มั่นใจเศรษฐกิจโลกฟื้นตัวยกแผงปีหน้า หนุนจีดีพีโต 4.5% "ไพบูลย์" เชื่อตลาดหุ้นไทยเป็นขาขึ้น ตาม แนวโน้มการไหลกลับของเงินทุนต่างชาติที่มากกว่า 1 แสนล้านบาท ดันดัชนีแตะระดับ 1,700 จุด แนะรัฐแจงข้อมูลโครงการจำนำข้าวสร้างความเชื่อมั่นนักลงทุนนอก ขณะที่ราคาทองปีนี้ยังเป็นขาลงแตะ 1,100 ดอลลาร์ แต่จะเริ่มฟื้นตัวปีหน้า
• นายกสมาคมค้าทอง นัดถกสมาชิกสัปดาห์หน้า ยื่นข้อเสนอพาณิชย์ แยกธุรกิจออนไลน์ค้าทองให้ ก.ล.ต.-ตลาดหลักทรัพย์กำกับ ส่วนร้านค้าทอง ควรอยู่ภายใต้กระทรวงพาณิชย์ พร้อมติงสั่งร้านทองทั่วประเทศขึ้นทะเบียน และต้องมีผู้สอบบัญชีเป็นผู้รับอนุญาต มองว่าเป็นภาระมากเกินไป
• บอร์ด กนง.คงอัตราดอกเบี้ยนโยบาย 2.50% สนับสนุนการฟื้นตัวเศรษฐกิจไทยระยะต่อไป ภายใต้ความไม่แน่นอนเศรษฐกิจและการเงินโลก ห่วงการเบิกจ่ายงบล่าช้า ระบุเตรียมรับมือไว้แล้วไม่ว่าจะเป็นการปรับเปลี่ยนนโยบายและเครื่องมือดูแลสภาพคล่องเงินบาทและดอลลาร์ รวมถึงความผันผวนเงินทุน-ค่าเงิน
• "ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร"นายกรัฐมนตรีแจ้งให้ที่ประชุมคณะทำงานกำกับการบริหารนโยบายเศรษฐกิจ เมื่อวันที่ 16 ต.ค. ว่า ธนาคารกลางของพม่ายังไม่ผ่อนผันหรืออนุญาตให้นักลงทุนไทยถือเงินสดเข้าประเทศพม่าเพิ่มจาก 5 แสนบาทต่อคน เป็น 2 ล้านบาทต่อคน โดยธนาคารกลางของพม่า ระบุว่า ยังไม่พร้อมเปิดดำเนินการในเรื่องนี้ส่งผลให้การส่งเสริมการค้าชายแดนระหว่างไทยและพม่าจะต้องปรับรูปแบบการส่งเสริมการค้าชายแดนไทย-พม่า

*หุ้นเด่นวันนี้

• BLAND(ทรีนีตี้)"เทรดดิ้งระยะสั้น"แหล่งข่าวเผย BLAND ได้ลงนามขายที่ดินบริเวณศรีนครินทร์ จำนวน 300 ไร่ ให้กับ SIRI ในราคาไร่ละ 30 ล้านบาท รวมทั้งสิ้น 9 พันล้านบาทโดยจะมีกำไรจากการขาย 6 พันล้านบาทจากราคาต้นทุนที่ 3 พันล้านบาท นอกจากนี้ Book Value หรือมูลค่าทางบัญชีของบริษัทมีโอกาสปรับเพิ่มขึ้นได้อีกหากที่ดินที่เหลืออีกราว 1,000 ไร่ มีการประเมินราคาที่ดินใหม่โดยจากเดิมมีราคาทุนที่ไร่ละ 10 ลบ. โดยจะทำให้มูลค่าทางบัญชีเพิ่มขึ้นราว 1.2 บาทต่อหุ้นหากมีการปรับราคาประเมินเท่าราคาซื้อขายจริง จึงมองเป็นปัจจัยเชิงบวกต่อหุ้น BLAND ในระยะกลาง-ยาว แต่จากที่ราคาหุ้นปรับตัวขึ้นมาแรงในช่วงที่ผ่านมาล่าสุดปิดที่ราคา 1.79 บาท โดยให้แนวรับ 1.72-1.62 แนวต้าน 1.84-1.87 บาท
• SVI (เคเคเทรด)"ซื้อ"เป้า 4.50 บาท เนื่องจากคาดว่าผลการดำเนินงานของธุรกิจปกติผ่านจุดต่ำสุดแล้ว โดยครึ่งหลังปีนี้คาดจะกำไรเติบโตชัดเจนกว่า 100% จากครึ่งปีแรกและเติบโตต่อเนื่องในปี 2557 ประกอบกับบริษัทเริ่มได้ประโยชน์จากคำสั่งซื้อของลูกค้าใหม่ 5 ราย ซึ่งเป็นสินค้า margin สูง และคาดว่าจะมีสัดส่วนรายได้เพิ่มเป็น 30-40% มองเป็นปัจจัยบวกต่อการเพิ่ม Gross margin ในปี 57 ราคาปัจจุบันมี Upside 19%
• VGI(เคเคเทรด)"ซื้อ"เป้า 14.70 บาท แม้เศรษฐกิจจะชะลอตัว แต่ผู้คนก็ยังคงต้องเดินทาง ทำให้เราคาดว่าสื่อในรถไฟฟ้า BTS ของบริษัทจะได้รับผลกระทบจากการชะลอตัวของภาวะเศรษฐกิจน้อยกว่าสื่อประเภทอื่นๆ โดยงวด 9M56 งบโฆษณาสื่อในระบบขนส่งมวลชนเติบโต 15% YoY สูงกว่าอุตสาหกรรมสื่อโฆษณารวมที่เติบโตเพียง 1% YoY ดังนั้นเราจึงยังคงคาดกำไรปี 2556/57 ของ VGI จะเติบโตโดดเด่น 47% YoY ตามการเติบโตของรายได้จากการขายโฆษณาบนสื่อรถไฟฟ้า BTS
• KBANK (เมย์แบงก์ กิมเอ็ง)"ซื้อเก็งกำไร"เป้า 228 บาท คาดว่าหุ้นกลุ่มธนาคารจะเป็นกลุ่มนำตลาดในวันนี้ จากแรงซื้อของนักลงทุนต่างชาติ หลังสภาสูงของสหรัฐฯ โหวตผ่านแผนขยายเพดานหนี้ และงบประมาณเพื่อให้หน่วยงานรัฐบาลของสหรัฐกลับมาเปิดทำการได้ ด้วยคะแนนเสียง 81 ต่อ 18 และคาดว่าการโหวตของสภาล่างจะโหวตผ่านเป็นลำดับถัดไป และ KBANK จะรายงานผลประกอบการ 3Q56 ในวันนี้ โดยคาดว่ากำไรสุทธิจะเติบโต +18% yoy และ ทรงตัว qoq ที่ 1.09 หมื่นล้านบาท โดยคาดผลประกอบการ 3Q56 มีโอกาสที่จะออกมาดีกว่าคาดได้เช่นกัน และการฟื้นตัวของเศรษฐกิจจะเป็นปัจจัยหนุนกลุ่มธนาคารในช่วงที่เหลือของปี หลังกระทรวงการคลังประเมินเบื้องต้น คาดว่า GDP 3Q56 จะขยายตัวไม่ต่ำกว่า 3% qoq